ข่าว

จัดวันช้างไทยที่ศูนย์คชศึกษาหมู่บ้านช้างสุรินทร์

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

จังหวัดสุรินทร์ ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ จัดงาน “วันช้างไทย” วันที่ 13 มีนาคม เพื่อให้ความสำคัญต่อช้างที่มีความสำคัญต่อประเทศไทย เป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมือง และยังคู่บารมีพระมหากษัตริย์ไทยมาทุกยุคทุกสมัย

เป็นที่ทราบกันดีว่า “ช้าง” เป็นสัตว์ที่มีความสำคัญต่อประเทศไทย และเราได้ยึดถือกันมาว่า “ช้าง”ยังเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมือง คู่บารมีพระมหากษัตริย์ไทย รวมถึงเป็นสัญลักษณ์ประจำชาติไทยมานาน  แต่ปัจจุบัน  ภาพลักษณ์ของ “ช้าง” กลับเป็นภาพไม่น่าดู เราจะเห็น “ช้าง”จำนวนไม่น้อยที่ถูกเจ้าของช้าง หรือ “ควาญช้าง” นำช้างออกไปเร่ร่อนตามเมืองต่าง ๆ เพื่อหารายได้มาลี้ยงชีพ และเลี้ยงช้าง ซึ่งทำให้หลายฝ่ายมองว่า เป็นปัญหาสำคัญของสังคมปัญหาหนึ่ง จนถูกมองว่า “ช้างขอทาน” อันส่งผลให้ภาพลักษณ์ของ “ช้างไทย”ต้องถูกกระทบกระเทือนไปอย่างเลี่ยงไม่ได้    ซึ่งการแก้ปัญหาช้างเลี้ยงภายในประเทศไทยยังไม่สามารถทำให้เป็นรูปแบบที่ดีได้ เพราะความจริงปัญหาที่ถูกมองข้าม และการขาดโอกาสมีส่วนร่วมของ “คนกับช้าง” ในการกำหนดวิถีชีวิต หรือการสืบสานวัฒนธรรมระหว่างคนกับช้างให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างผาสุข
 จากปัญหาดังกล่าว องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ ได้เริ่มจัดโครงการ “นำช้างคืนถิ่นสุรินทร์บ้านเกิด” มาเมื่อวันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2549 เพื่อแก้ไขปัญหา “ช้างเร่ร่อน” โดยเฉพาะ “ช้างสุรินทร์” ที่เป็นช้างเลี้ยงที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้สร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดสุรินทร์และประเทศไทยจนเป็นที่รู้จักกันทั่วโลกมานานนับ 40 ปี ประกอบกับคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2541  ให้วันที่ 13 มีนาคมของทุกปีเป็นวันช้างไทย”  และทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ ได้เห็นความสำคัญของช้างไทย “ช้างเลี้ยงที่ใหญ่ที่สุดในโลกของจังหวีดสุรินทร์ จึงได้จัดงาน “วันช้างไทยขึ้น” โดยมี นายพงษ์ศักดิ์ นาคประดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เดินทางมาเป็นประธาน และมี นายสมศักดิ์  เจริญพันธ์รองนายกองการบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ กล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์ในการจัดงาน พร้อมกับจัดพิธีสงฆ์  อุทิศส่วนกุศลให้กับช้าง และควาญช้างที่ล่วงรับไปแล้ว  มีพระสงฆ์จากวัดต่าง ๆ ในตำบลกระโพ จำนวน 9 รูปมาเจริญพระพุทธมนต์  พร้อมกับจัดเลี้ยงอาหารให้ช้างที่เข้าอยู่ในโครงการ “นำช้างคืนถิ่นสุรินทร์บ้านเกิด” 
 หลังจากนั้น รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ และรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ พร้อมด้วยประชาชน และนักท่องเที่ยวได้มาร่วมเลี้ยงอาหารช้างจำนวน 65 เชือก ซึ่งโต๊ะอาหารช้างมีความยาวประมาณ 100 เมตร มีอาหารของช้าง ประเภท กล้วย, อ้อย, แตงโม,สัปปะรด
หลังจากเลี้ยงอาหารให้ช้างเสร็จแล้ว ประชาชน นักเรียน และนักที่องเที่ยวได้เดินมาดูการแสดงของช้างที่สนามแสดงช้างที่ศูนย์คชศึกษาด้วย
 นายสมศักดิ์ เจริญพันธ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ ได้กล่าวถึงภาพรวมในการจัดงาน และปัญหาของช้างเลี้ยงที่เข้าร่วมโครงการนำช้างคืนถิ่นสุรินทร์บ้านเกิดว่า ทาง อบจ.ยังขัดสนในเรื่องงบประมาณของอาหารเลี้ยงช้าง และพื้นที่ปลูกป่าอาหารช้าง เพราะพื้นที่ยังไม่ได้รับมอบจากป่าไม้ แต่ว่ามีทางปศุสัตว์ เกษตร และประชาชนได้มาร่วมปลูกป่าอาหารช้าง ถ้าจะให้ครอบคุมครบสมบูรณ์ เป็นรูปธรรมยังเป็นไปไม่ได้ เพราะขัดกับเงื่อนไขระเบียบของทางราชการ  แต่ถ้าจะเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว จะเห็นว่าปีนี้ได้มีการเปลี่นยแปลงดีกว่าปีที่ผ่านมา

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ