เริ่ม! "นักโทษ" กลับมาลอกท่ออีกครั้ง วันแรก 11 จุด พื้นที่กทม.
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม คิกออฟปล่อยขบวน "นักโทษ" ลอกท่อระบายน้ำ 11 จุดทั่ว กรุงเทพมหานคร เน้นย้ำเรื่องความสะอาด อย่าทำให้ถนนรอบข้างสกปรก
เมื่อวันที่ 1 ก.ค. 2565 เวลา 09.00 น. ที่บริเวณสนามหน้าเรือนจำกลางคลองเปรม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ปล่อยแถวผู้ต้องขังออกทำงานล้างท่อระบายน้ำในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร 11 จุด
นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า การล้างท่อระบาย หรือ ลอกท่อ กรมราชทัณฑ์เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ พ.ศ.2523 เพื่อมุ่งมั่นพัฒนาการรับรู้เชิงบวกให้กับนักโทษ ให้กลับมาใช้ชีวิตหลังพ้นโทษ สร้างการยอมรับจากสังคม แต่เนื่องจากสถานการณ์โควิด19 จึงต้องหยุดชะงัก ขณะนี้สถานการณ์ดีขึ้น ผู้ต้องขังจึงสามารถออกมาทำงาน โดยเน้นหลักความปลอดภัยและหลักสิทธิมนุษยชน ซึ่งวันนี้ราชทัณฑ์พร้อมและทำความร่วมมือกับกรุงเทพมหานครแล้ว
นายสมศักดิ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้เป็นโอกาสที่ผู้ต้องขังจะกลับมาครั้ง แม้งานลอกท่อ จะเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากทำ แต่ขอให้ทุกคนนั้นภูมิใจว่าเวลานี้เราคือส่วนหนึ่งที่ช่วยสังคม และต้องขอขอบคุณ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่เข้าใจและรับฟังความคิดเห็นของผู้คน โดยเฉพาะงานของกรมราชทัณฑ์และเสียงจากประชาชน ทำให้เกิดความมั่นใจจากผู้ว่าจ้าง หากได้คนที่เข้าใจบริบทของสังคม บ้านเมืองจะได้ประโยชน์สูงสุด
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า กรมราชทัณฑ์จะได้มีงบประมาณจากการรับจ้างจากกทม.มาดำเนินการลอกท่อ ซึ่งช่วยผู้ต้องขังที่ใกล้พ้นโทษได้มีโอกาสเตรียมพร้อมกลับสู่โลกภายนอกในอนาคต วันนี้พี่น้องประชาชนยอมรับในฝีมือของเรา ดังนั้นต้องรักษาคุณภาพของงานเป็นเรื่องสำคัญ ทำดีอยู่แล้ว ต้องรักษาเอาไว้ ทำให้ดีที่สุด โดยเฉพาะความสะอาด อย่าทำให้ถนนรอบข้างสกปรก การขนส่งต้องทำให้ดีที่สุด ไม่เช่นนั้นคะแนนเราจะติดลบ ต้องใส่ใจ เป็นผู้รับผิดชอบกับสังคมอีกส่วนหนึ่ง ผู้ต้องขังต้องนึกถึงคนข้างหลังด้วย เมื่อท่านพ้นโทษยังมีชุดใหม่ๆ ที่รอทำงาน หากชุดแรกๆ ทำติดลบ ผู้ที่ทำงานตามมาจะถูกวิพากษ์วิจารณ์
สำหรับการลอกท่อ กทม.จะจ้างปีละ 3,500 กิโลเมตร ต้องไม่มีคำว่าผิดพลาด อย่าให้โคลน ดิน เลน หกเรี่ยราด ต้องทำให้ดีกว่าเอกชน เพราะเราเป็นหน่วยงานที่ต้องรับผิดชอบต่อสังคม ส่วนด้านสิทธิมนุษยชนต้องปฏิบัติเคร่งครัด ชุด อุปกรณ์ต้องครบ อย่าให้สังคมวิจารณ์ มั่นใจตลอด 4 ปี เราจะได้ทำงานตรงนี้ แม้งบประมาณช่วงนี้จะน้อย แต่ขอให้เราตั้งใจ ไม่ต้องกลัวขาดทุน ทำให้ชาวกรุงเทพมหานครมีความสุข ช่วยกันแก้ปัญหา
"ผมไม่เคยคิดว่า พวกท่านคือปัญหาของสังคม เชื่อว่าทุกคนสามารถปรับปรุงตัวให้ดีได้และหวังว่าเมื่อพ้นโทษทุกท่านจะนำรายได้ที่ได้รับจากการทำงานสาธารณะไปเป็นทุนในการดำรงชีวิต และไม่หวนกลับไปกระทำผิดซ้ำ" นายสมศักดิ์กล่าว
ผู้ต้องขังรายหนึ่ง ระบุว่า ดีใจภูมิใจที่ได้ออกมาทำประโยชน์ให้กับสังคม ซึ่งตนเหลือโทษอีกประมาณ 1 ปีเศษ ก็หวังที่จะมีเงินเก็บไว้ไปตั้งตัว ประกอบอาชีพได้หลังการพ้นโทษ
สำหรับผู้ต้องขังที่ออกมาใช้แรงงานนั้น จะเป็นนักโทษชั้นเยี่ยม ชั้นดีมาก มีความประพฤติดี โทษเหลือน้อย โดยจะได้ค่าแรงจาก 70% ของกำไรในการรับเหมา ซึ่งจะตกวันละ 331 บาทต่อคน ซึ่งนักโทษคดีร้ายแรงจะไม่ได้รับสิทธิออกไปทำงานในส่วนนี้ นอกจากนี้มาตรการป้องกันโควิดนั้น จะมีตรวจ ATK 3-5 วัน และแยกขังผู้ที่ออกมาลอกท่อไม่ปะปนกับผู้ต้องขังอื่น