ข่าว

"กทม." ประสานการไฟฟ้า สำรวจ "หม้อแปลง" อายุเกิน 20 ปี หวั่นซ้ำรอย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

หลายหน่วยงานลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุ "หม้อแปลง" ระเบิดลามไหม้ร้านค้า มีผู้เสียชีวิต 2 ศพ "กทม." เร่งประสานการไฟฟ้า ดูแล "หม้อแปลง" อายุเกิน 20 ปี

27 มิ.ย.2565  น.ส.อาทิตยา โชคกิจมนัสชัย ผู้อำนวยการเขตสัมพันธวงศ์ พร้อมด้วย น.ส.โสภา เกียรตินิรชา ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน ประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่สำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่การไฟฟ้า และเจ้าหน้าที่สภาวิศวกร ร่วมตรวจสอบเหตุ หม้อแปลงระเบิด เพลิงไหม้ลุกลามเข้า บริษัท ราชวงศ์รุ่งเรือง จำกัด ค้าถุงพลาสติก เลขที่ 157 ถนนราชวงศ์ แขวงจักรวรรดิ  เขตสัมพันธวงศ์ กทม. ก่อนลุกลามไปยังอาคารข้างเคียงหลายคูหาทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และได้รับบาดเจ็บสำลักควันไฟอีกหลายราย เหตุเกิดเมื่อช่วงสายวานนี้ (26 มิ.ย.) 

 

ผู้อำนวยการเขตสัมพันธวงศ์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่ามีอาคารพาณิชย์ได้รับความเสียหายประมาณ 4 คูหา ซึ่งจากการประเมินมีมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท และยอมรับว่า ยังไม่เคยเกิดเหตุรุนแรงแบบนี้ มีผู้เสียชีวิตถึง 2 ราย ซึ่งถือเป็นบทเรียนสำคัญ โดยหลังจากนี้จะให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปเร่งสำรวจสายไฟเก่า เครื่องใช้ไฟฟ้าเก่า และช่วยประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตา หากพบจุดที่มีความเสี่ยงก็ให้แจ้งมายังสำนักงานเขตได้ รวมถึงจะเชิญการไฟฟ้ามาประชุมร่วมกันว่าให้ไปตรวจสอบว่าในพื้นที่ มีหม้อแปลงไฟฟ้าที่เก่าเกินอายุที่สมควร คือ มากกว่า 20 ปี หรือไม่

 

 

 

 

"กทม." ประสานการไฟฟ้า สำรวจ "หม้อแปลง" อายุเกิน 20 ปี หวั่นซ้ำรอย

 

 

เพราะจากข้อมูลของการไฟฟ้าระบุว่าหม้อแปลงที่มีอายุเกิน 20 ปี จะต้องได้รับการดูแลมากเป็นพิเศษ และหากในพื้นที่ยังมี หม้อแปลงประเภทนี้อยู่ก็จะประสายให้ดำเนินการดูแลเปลี่ยนใหม่ หรือซ่อมแซม ให้สมบูรณ์อย่างรัดกุมมากขึ้นต่อไป ส่วนหม้อแปลงบริเวณหน้าร้านที่เกิดเหตุนั้นตนไม่สามารถตอบได้ว่ามีอายุการใช้งานมากี่ปี แต่เท่าที่สังเกตด้วยสายตาเชื่อว่าน่าจะใช้งานมานานพอสมควรแล้ว ซึ่งในช่วงวันเสาร์และวันอาทิตย์นี้ทางเขต จะมีการอบรมอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน จึงจะถือโอกาสนี้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบเรื่องการดูแลสายไฟ และมาตรการป้องกันระวังภัยเกี่ยวกับสายไฟฟ้าด้วยอีกทางหนึ่ง

 

 

"กทม." ประสานการไฟฟ้า สำรวจ "หม้อแปลง" อายุเกิน 20 ปี หวั่นซ้ำรอย

 

 

ด้าน น.ส.โสภา เกียรตินิรชา ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ขณะนี้ตรวจสอบพบว่าผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย มีการทำประกันสังคมไว้ รวมถึงรายที่เป็นแรงงานต่างด้าวด้วย ซึ่งในเบื้องต้นทั้งคู่ จะได้รับเงินชดเชยจำนวน 5 หมื่นบาทต่อราย และยังมีเงินทดแทนตามระยะเวลาการทำงาน ที่กระทรวงแรงงานจะจ่ายให้ 70% ของค่าแรง โดยต้องไปตรวจสอบระยะเวลาการทำงานของทั้ง 2 คนก่อน ส่วนยอดผู้ได้รับบาดเจ็บจากการที่มีการสรุปตั้งแต่เมื่อวานคือ 11 คน ตอนนี้กลับบ้านได้แล้ว 10 คน ยังเหลืออีก 1 คนที่นอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล

 

 

"กทม." ประสานการไฟฟ้า สำรวจ "หม้อแปลง" อายุเกิน 20 ปี หวั่นซ้ำรอย

 

 

ติดตามกระแสโซเชียลเพิ่มเติม   คมชัดลึก

 

 

 

"กทม." ประสานการไฟฟ้า สำรวจ "หม้อแปลง" อายุเกิน 20 ปี หวั่นซ้ำรอย

 

 

ขณะที่ นายเกียรติศักดิ์ แซ่แต้ อายุ 40 ปี เจ้าของร้านพิชิตชัยค้าของเล่นเด็ก ซึ่ง อยู่ติดกับห้องต้นเพลิง ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ไปด้วย เปิดเผยว่า โชคดีที่เมื่อวานนี้ทางร้านปิดให้บริการ ไม่เช่นนั้นตนและลูกจ้างอีก 5 - 6 คนไม่รู้จะมีชะตากรรมเป็นเช่นไร จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้สินค้าและโครงสร้างอาคารร้านตนได้รับความเสียหายทั้งหมด ประเมินมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท โดยหลังจากนี้ทั้งตนและเจ้าของร้านต้นเพลิงรวมถึงผู้เสียหายรายอื่นๆ จะดำเนินการแจ้งความฟ้องร้องกับการไฟฟ้าเพื่อให้ร่วมรับผิดชอบความเสียหายอย่างแน่นอน

 

"เพราะที่ผ่านมาทั้งสายไฟและหม้อแปลงมีปัญหาบ่อยครั้ง ล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ 24 มิ.ย. เวลาประมาณ 19:00 น. หม้อแปลงไฟฟ้าลูกนี้ก็เพิ่งมีปัญหา มีเสียงคล้ายเกิดการช็อตจนชาวบ้านต้องแจ้งเจ้าหน้าที่มาดู แต่เจ้าหน้าที่ก็มาแก้ไขเพียงชั่วครู่แล้วกลับไป กระทั่งช่วงเช้าวันนี้หม้อแปลงก็มีปัญหาอีก ส่งผลให้เกิดการระเบิดมีทรัพย์สินได้รับความเสียหายมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ซึ่งตนมองว่าเรื่องนี้การไฟฟ้าควรต้องรับผิดชอบ ขอเวลาปรึกษากับผู้เสียหาย เพื่อเตรียมการเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับทางพนักงานสอบสวน อีกครั้งจะมีการตั้งเรื่องฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายตามกระบวนการศาลควบคู่กันไป" นายเกียรติศักดิ์ กล่าว

 

 

"กทม." ประสานการไฟฟ้า สำรวจ "หม้อแปลง" อายุเกิน 20 ปี หวั่นซ้ำรอย

 

 

จากการสอบถาม พ.ต.อ.วสันต์ ธวัชชัยวิรุตษ์ ผกก.สน.จักรวรรดิเปิดเผยว่า ขณะนี้กระบวนการสอบสวนยังดำเนินการไปอย่างต่อเนื่องยังไม่สามารถพิสูจน์ทราบได้ว่าสาเหตุเกิดจากสิ่งใด จนกว่าจะรอผลการสอบสวนผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายเสร็จสิ้น อีกทั้งยังต้องรอผลการตรวจสอบของกองพิสูจน์หลักฐาน นำมาประกอบสำนวนคดี ซึ่งต้องใช้ ระยะเวลานานพอสมควร ส่วนเรื่องผู้เสียหายที่ประสงค์จะเดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับหน่วยงานใด ก็สามารถเดินทาง เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนได้ตามสิทธิ์.
 

 

"กทม." ประสานการไฟฟ้า สำรวจ "หม้อแปลง" อายุเกิน 20 ปี หวั่นซ้ำรอย

 

 

 

ชุติเดช ม่วงใจรักษ์   ผู้สื่อข่าว

 

 

ติดตามข่าวอื่นได้ที่   คมชัดลึก

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ