ข่าว

"ฟีฟ่า" อนุมัติส่งรายชื่อได้ 26 คน ลุยศึก "ฟุตบอลโลก 2022"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ฟีฟ่า" อนุมัติ ให้ 32 ทีมชาติผ่านเข้าสู่ รอบสุดท้ายศึก "ฟุตบอลโลก 2022" ที่ประเทศกาตาร์ สามารถส่งรายชื่อเพิ่มได้จาก 23 คน เป็น 26 คน หลังจากแต่ละชาติได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

"ฟีฟ่า" หรือ "สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ" (Fifa) ออกประกาศข้ออนุมัติอย่างเป็นทางการ ถึงการให้ ทีมที่ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้าย 32 ทีมชาติ ในศึก "ฟุตบอลโลก 2022" ที่ประเทศกาตาร์  สามารถส่งรายชื่อนักเตะเข้าทีมได้มากขึ้นจากเดิม 23 คน เพิ่มเป็น 26 คน 

 

โดย "ฟีฟ่า" ได้ให้เหตุผลถึงความจำเป็นในการรักษาความยืดหยุ่นในช่วงเวลาที่ไม่ตรงกัน ของแต่ละชาติที่จะมาลงทำการแข่งขัน "ฟุตบอลโลก 2022" รอบสุดท้าย ที่ประเทศกาตาร์  เช่นเดียวกับปัญหาที่เป็นวงกว้างขึ้นของผลกระทบที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในทีมก่อนและระหว่างการแข่งขัน จึงทำให้ฟีฟ่า ทำการเพิ่มจำนวนผู้เล่นตรงนี้  ผู้เล่นในทีมเป็น 26 คน 

 

โดยในจำนวน 26 แข้งครั้งนี้ จะแบ่งเป็นผู้เล่น 11 ผู้เล่นตัวจริง และตัวสำรอง 15 คน นอกจากนี้ ฟีฟ่า ยังได้อนุญาตให้มีผู้เล่นนั่งซุ่มม้านั่งสำรองได้ไม่เกิน 26 คน แบ่งเป็นตัวสำรอง 15 คน และเจ้าหน้าที่ทีมไม่เกิน 11 คน ซึ่งหนึ่งในจำนวนนั่นต้องมีแพทย์ประจำทีมรวมอยู่ด้วย รวมถึงทั้ง 32 ทีม จะต้องส่งรายชื่อผู้เล่น ภายในวันที่ 13 พฤศจิกายน หรือก่อนเกมนัดเปิดสนามจะเริ่มขึ้น 8 วัน อีกด้วย  

 

 

โดยผลสรุป ทั้ง 32 ที่ผ่านเข้าสู่ศึก "ฟุตบอลโลก 2022" ที่ประเทศกาตาร์ และแบ่งกลุ่มทั้งหมด 8 กลุ่มดังนี้ 

กลุ่มเอ : กาตาร์ (เจ้าภาพ) , เอกวาดอร์ , เซเนกัล และ เนเธอร์แลนด์  

กลุ่มบี : อังกฤษ , อิหร่าน , สหรัฐอเมริกา และ เวลส์ 

กลุ่มซี : อาร์เจนติน่า , ซาอุดิอาระเบีย , เม็กซิโก และ โปแลนด์ 

กลุ่มดี : ฝรั่งเศส , ออสเตรเลีย , เดนมาร์ก และ ตูนิเซีย 

กลุ่มอี : สเปน , คอสตาริกา , เยอรมัน และ ญี่ปุ่น 

กลุ่มเอฟ : เบลเยียม , แคนาดา , โมร็อกโก , โครเอเชีย 

กลุ่มจี : บราซิล , เซอร์เบีย , สวิตเซอร์แลนด์ , แคมารูน 

กลุ่มเอช : โปรตุเกส , กาน่า , อุรุกวัย และ เกาหลีใต้ 

 

อย่างไรก็ตาม "ฟุตบอลโลก 2022" รอบสุดท้ายจะแข่งขันระหว่างวันที่ 21 พฤศจิกายน-18 ธันวาคม นี้ที่ประเทศกาตาร์

"ฟีฟ่า" อนุมัติส่งรายชื่อได้ 26 คน ลุยศึก "ฟุตบอลโลก 2022"

 

ติดตามช่องทาง  https://www.komchadluek.net/

ที่มา : fifa

CREDIT PHOTO : Twitter@FIFAWorldCup

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ