"กองทัพธรรม"โต้หมอปลาเหตุเจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนมโกงเงิน1ล้าน

ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายกองทัพธรรม ร่วมกับทนายกองทัพธรรมประจำจังหวัดนครพนม ทนาย เอื้อ มูลสิงห์ ทนายสุมาลี พูลศิริกุล ทนาย พรหมพิริยะ ยสพันธ์ และทนาย สุวิทย์ เข็มบุญ ร่วมแถลงข่าวกับพระครูโสภณ ภวนานุสิธ เจ้าอาวาสวัดมรุกขนคร ณ วัดพระธาตุพนม จังหวัด นครพนม 

  จากกรณีที่ นางสาว วรรณวิสา ประทุมวัน ไปร้องเรียนวัดมรุกขนคร ต.ดอนนางหงส์ อ.ธาตุพนม จังหวัดนครพม ว่า วัดมรุกขนคร ค้างจ่ายค่าก่อสร้างถาวรวัตถุในวัดมุกขนคร และขอให้พระเทพวรมุนี เจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ซึ่งเป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดมุกขนคร และปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 1 จ่ายค่าก่อสร้างถาวรวัตถุ เป็นเงินจำนวนกว่า 1 ล้านบาท นอกจากนี้หมอปลาและพวกยังกล่าวหาว่าพระเทพวรมุนี โกงเงินสร้างถาวรวัตถุวัดแห่งนี้เป็นเงิน 1 ล้านบาทด้วย  และกล่าวอ้างว่ามีการร้องเรียนไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครพนม และกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่ามีการโทรศัพท์ไปยังผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครพนม เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีการร้องเรียน ดังกล่าวด้วย

ต่อมาสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครพนม ได้มีหนังสือชี้แจงลงวันที่ 15 มิถุนายน 2565ว่าจากการตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับการร้องเรียนไม่มีปรากฎเอกสารร้องเรียนมายังสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครพนม ส่วนที่ผู้ร้องกล่าวว่ามีการโทรศัพท์สอบถามในเรื่องดังกล่าวไปยังผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครพนม ว่าไม่ว่าง ขอเรียนว่าไม่มีกรณีดังกล่าวและ ไม่เคยได้รับโทรศัพท์จากผู้ร้องเรียนและเพิ่งทราบว่ามีการร้องเรียนเรื่องดังกล่าวจากข่าว
       ข้อมูลของวัดมรุกขนคร เดิมเป็นเพียงวัดร้างเก่าแก่ และได้รับการจัดตั้งเป็นวัดตามกฎหมายเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2539 แต่ปรากฏว่า เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2539 นางจิราภรณ์  อดีตผู้ใหญ่บ้าน ม.7 อ.ดอนนางหส์ ได้ทำหนังสือยกเลิกสัญญาก่อสร้าง ดังนั้น ณ วันที่บอกเลิกสัญญา ยังไม่มีสถานะเป็นวัด เป็นเพียงแค่วัดร้างเท่านั้น 

ทนายอนันต์ชัยกล่าวว่า การก่อสร้างเป็นเรื่องของเอกชนหรือประชาชนที่มีจิตศรัทธาสร้างวัด และอยู่ในการดูแลของกรมศาสนา ไม่ใช่สำนักพุทธ และ พระเทพวรมุณี ยังไม่ได้เป็นเจ้าอาวาส จึงไม่รับทราบเกี่ยวกับการก่อสร้างดังกล่าว จึงไม่มีนิติสัมพันธ์ใดๆ ต่อกัน จากข้อมูล สาเหตุที่ยกเลิกสัญญา เนื่องจากผู้รับเหมาทำงานล่าช้า ไม่ดูแลงานอย่างใกล้ชิดตามเอกสาร จึงได้บอกเลิกสัญญา แม้สมมติว่า มีสถานะเป็นวัดแล้ว หากมีผู้จ่าย ก็อาจโดน ป.อาญา มาตรา157 เนื่องจากเจ้าอาวาส หรือพระ มีสถานะเป็นเจ้าพนักงาน

พระครูโสภณ ภวนานุสิธ เจ้าอาวาสวัดมรุกขนคร รูปปัจจุบัน  กล่าวฝากถึงบุคคลที่ให้สัมภาษณ์สื่อต่างๆ บุคคลดังกล่าวได้ไปแอบอ้าง ว่าเป็นลูกของนางประเสริฐ และให้ข่าวบิดเบือน ทำให้ ประชาชนได้รับข่าวสารผิดเพี้ยน และทำให้พระเทพวรมุนี เสียหาย เพราะเรื่องที่ให้ข่าวไม่เป็นความจริง ส่วนรายละเอียดเป็นไปตามทนายอนันต์ชัย ไชยเดช กล่าว

   นาย สมพงษ์ หมวดไธสง ผอ.สำนักพุทธฯจังหวัดนครพนม กล่าวว่า ตามที่ปรากฏตามสื่อที่ร้องเรียนมายังสำนักพุทธฯ ผมได้ตรวจสอบตามเวลาที่ปรากฏตามที่แถลงที่สำนักนายก ก็ไม่มีปรากฏว่ามีการติดต่อมา ส่วนรายละเอียดเป็นไปตามทนายอนันต์ชัยแถลง
เบื้องต้นความเสียหายในครั้งนี้ ทางพระเทพวรมุนี จะเรียกค่าเสียหายกับนางสาว วรรณวิสา ประทุมวัน พร้อมด้วยหมอปลาและพวกเป็นเงิน 40 – 50 ล้านบาท  โดยเงินทั้งหมดจะนำไปบริจาคให้วัด และอยากให้หมอปลากับพวกเดินทางมาที่จังหวัดนครพนมอีกด้วย