ข่าว

"ตำรวจป่าไม้" แกะรอยแก๊งค้า "ลูกเสือโคร่ง" ก่อนลุยค้น 6 จุด รวบ 4 ผู้ต้องหา

23 มิ.ย. 2565

"ตำรวจป่าไม้" แกะรอยตามรวบแก๊งลอบค้า "ลูกเสือโคร่ง" น้องขวัญ หลังได้ข้อมูลขบวนการค้า "ลูกเสือ" ก่อนเปิดปฎิบัติการลุยค้น 6 จุดกทม.และปริมณฑล รวบ 4 ผู้ต้องหา “ร่วมกันค้ามีไว้ครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครอง”

23 มิ.ย.2565   พล.ต.ต.มานะ กลีบสัตบุศย์ ผู้บังคับการ กองปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ผบก.ปทส.)  สั่งการให้ชุดสืบสวนเข้าจับกุม น.ส.พรทิพย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี, นายบวรวิชย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 56 ปี, นายสุเทพ (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี และ นายสมบัติ (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี ทั้งหมดเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดนนทบุรี ข้อหา “ร่วมกันค้าและมีไว้ครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” โดยจับกุมได้ในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา, นนทบุรี, กรุงเทพฯ และปทุมธานี

 

 

"ตำรวจป่าไม้" แกะรอยแก๊งค้า "ลูกเสือโคร่ง" ก่อนลุยค้น 6 จุด รวบ 4 ผู้ต้องหา

 

 

การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 5 เม.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจได้ประสานข้อมูลจากมูลนิธิสืบสวนคดีการค้าสัตว์ป่า Wildlife Justice Commission (WJC) จนสามารถจับกุมขบวนการค้าสัตว์ป่าคุ้มครองจำนวน 3 ราย พร้อมของกลางลูกเสือโคร่ง จำนวน 1 ตัว ได้ที่บริเวณลานจอดรถของห้างสรรพสินค้าย่าน อ.บางใหญ่ จ.นนทุบรี ต่อมาได้ทำการสืบสวนขยายผล จนทราบตัวผู้ร่วมขบวนการค้าลูกเสือโคร่ง อีก 4 ราย โดยผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ได้ซื้อขายลูกเสือโคร่ง ต่อ ๆ กันเรื่อยมา จนมีการส่งมอบลูกเสือโคร่ง ต่อให้กับกลุ่มขบวนการที่ถูกจับกุมไปแล้วก่อนหน้านี้

 

 

 

 

"ตำรวจป่าไม้" แกะรอยแก๊งค้า "ลูกเสือโคร่ง" ก่อนลุยค้น 6 จุด รวบ 4 ผู้ต้องหา

 

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอนุมัติหมายจับผู้ร่วมขบวนการทั้ง 4 ราย พร้อมเปิดปฏิบัติการ “ปทส. ตามล่าขบวนการค้าลูกเสือ” ปิดล้อมตรวจค้นทั้งหมด 6 จุด ในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร, จ.ปทุมธานี, จ.นนทบุรี, จ.พระนครศรีอยุธยา และ จ.สุพรรณบุรี

จากการสอบสวน  น.ส.พรทิพย์ ผู้ต้องหา ให้การว่า ได้พูดคุยกับนายชาตรีเพื่อทำการสั่งซื้อลูกเสือโคร่งจริง โดยได้รับการประสานว่ามีคนสามารถหาลูกเสือได้ ชื่อนายสมบัติ จึงติดต่อเพื่อขอซื้อในราคา ตัวละ 240,000 บาท

 

 

"ตำรวจป่าไม้" แกะรอยแก๊งค้า "ลูกเสือโคร่ง" ก่อนลุยค้น 6 จุด รวบ 4 ผู้ต้องหา

 

 

ขณะที่ นายสมบัติ ให้การว่า ได้ทำการสั่งซื้อจากนายบวรวิชย์ ที่รู้จักกันมาก่อน โดยนายบวรวิชย์เป็นเจ้าของสวนเสือที่ จ.สุพรรณบุรี ทำการตกลงซื้อขายกันในราคา 170,000 บาท ส่วนที่เหลืออีก 70,000 บาท เป็นกำไร และได้ให้ นายสุเทพซึ่งเป็นเพื่อนไปรับลูกเสือ จากนายบวรวิชย์ที่จุดนัดหมายใน ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี และได้ให้ค่าดำเนินการ 10,000 บาท หลังเสร็จภารกิจ

 

 

ด้าน นายบวรวิชย์ให้การว่า เมื่อวันที่ 4 เม.ย.65  ที่ผ่านมา หลังติดต่อซื้อขายกันเรียบร้อยแล้ว ได้มีการจัดหาลูกเสือโคร่ง ซึ่งซื้อมาอีกทอดหนึ่งจากนายเอ (ไม่ทราบชื่อ-สกุลจริง) เมื่อได้ลูกเสือโคร่งแล้ว มีการนัดหมายส่งมอบกันในวันที่ 5 เม.ย.65 ซึ่งได้รับการติดต่อจาก นายสมบัติว่าจะมีเพื่อนชื่อนายสุเทพมารับลูกเสือโคร่ง บริเวณจุดนัดพบ ใน ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เมื่อถึงวันเวลานัดหมาย นายบวรวิชย์ได้นำลูกเสือโคร่งที่อยู่ในตะกร้ามาส่งมอบให้นายสุเทพ

 

 

"ตำรวจป่าไม้" แกะรอยแก๊งค้า "ลูกเสือโคร่ง" ก่อนลุยค้น 6 จุด รวบ 4 ผู้ต้องหา

 

 

 

"ตำรวจป่าไม้" แกะรอยแก๊งค้า "ลูกเสือโคร่ง" ก่อนลุยค้น 6 จุด รวบ 4 ผู้ต้องหา

 

 

ส่วนนายสุเทพ ให้การว่า นายสมบัติได้ให้ช่วยมารับส่งลูกเสือโคร่ง จากนายบวรวิชย์บริเวณจุดนัดพบ ต่อมา นายบวรวิชย์ได้ขับรถ นำตะกร้าสีฟ้าซึ่งภายในมีลูกเสือโคร่งมาให้ตน โดยก่อนหน้านี้ตนได้พูดคุยกับ น.ส.พรทิพย์ ซึ่งบอกว่าเป็นผู้ติดต่อหาลูกค้า และ นายชาตรีซึ่งเป็นลูกค้าที่จะมารับเสือ ทำการนัดหมายให้มารับลูกเสือโคร่ง เมื่อถึงเวลานัดหมาย นายชาตรีได้ขับรถมาถึงบริเวณนัดหมาย ตนจึงนำลูกเสือโคร่งส่งมอบให้นายชาตรี

 

 

"ตำรวจป่าไม้" แกะรอยแก๊งค้า "ลูกเสือโคร่ง" ก่อนลุยค้น 6 จุด รวบ 4 ผู้ต้องหา

 

 

ภายหลังผู้ต้องหาทั้ง 4 ทราบว่าลูกเสือโคร่งตัวที่ทำการซื้อขายถูกเจ้าหน้าที่ตรวจยึด และนายชาตรีถูกจับกุม ก็ไม่คิดว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะรวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถขออนุมัติหมายจับตัวเองได้ จึงไม่ได้หลบหนี เบื้องต้นจึงนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปทส. เพื่อดำเนินคดีต่อไป ส่วนลูกเสือโคร่งดังกล่าว ภายหลังรู้จักกันในชื่อ “น้องขวัญ”

 

 

"ตำรวจป่าไม้" แกะรอยแก๊งค้า "ลูกเสือโคร่ง" ก่อนลุยค้น 6 จุด รวบ 4 ผู้ต้องหา

 

 

ติดตามข่าวอื่นได้ที่  คมชัดลึก