(22 มิ.ย.2565) นายบุรินทร์ ธนถาวรลาภ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย เปิดเผยว่า ในเดือนกรกฎาคมนี้ ผู้ประกอบการข้าวสารบรรจุถุง เตรียมจะปรับขึ้นราคา ข้าวถุง เนื่องจากสต็อกข้าวสารเก่าหมดแล้ว ขณะที่ข้าวสารล็อตใหม่ มีราคาแพงขึ้นมาก
โดยข้าวหอมมะลิ มีการปรับขึ้นราคา จาก 2,300 บาท/กระสอบ (100ก.ก.) เป็น 3,200 บาท/กระสอบ ส่วนข้าวสารเจ้า ราคาปรับจาก 1,300 บาท/กระสอบ เป็น 1,450 บาท/กระสอบ ทำให้ต้นทุนสูงขึ้นมาก จนต้องปรับราคาจำหน่ายข้าวสารถุง
โดยข้าวสารหอมมะลิ บรรจุถุง (ขนาด 5 ก.ก.) จะปรับขึ้น 30 บาท/ถุง คือปรับจาก 165 บาท/ถุง เป็น 195 บาท/ถุง ส่วนข้าวสารเจ้า ปรับขึ้น 10 บาท/ถุง คือปรับจาก 80-90 บาท/ถุง เป็น 90-100 บาท/ถุง
นายบุรินทร์ กล่าวต่อว่า ในช่วงที่ผ่านมา ผู้ประกอบการข้าวถุงแทบไม่มี กำไรจากการขายข้าว ได้กำไร เฉลี่ย 0.50-1บาท/ถุง เท่านั้น เพราะต้นทุนข้าวสารสูงมาก ข้าวสารหอมมะลิ ต้นทุนอยู่ที่ 165 บาท/ถุง ราคาขายก็อยู่ที่ 165 บาท/ถุง ส่วนข้าวสารเจ้า ต้นทุนอยู่ที่ 88 บาท/ถุง ราคาขายอยู่ที่ 92-95 บาท/ถุง
ในส่วนของข้าวสารเจ้า แม้ว่าราคาขายจะสูงกว่าต้นทุน แต่ผู้ประกอบการก็ไม่ได้กำไร กำไรไปอยู่กับห้างที่นำข้าวถุงไปขาย เพราะปัจจุบันห้างมีการเรียกเก็บค่าส่วนลด ขอส่วนแบ่งกำไร จิปาถะจำนวนมากจากผู้ประกอบการข้าวถุง รวม ๆ ราว 10% ทำให้ผู้ประกอบการไม่มีกำไร อยากให้กระทรวงพาณิชย์ เข้าไปดูแลให้เกิดความเป็นธรรมด้วย
“ตอนนี้ข้าวถุงก็เหมือนระเบิดเวลา รอวันที่จะระเบิด เพราะผู้ประกอบการยื้อราคาต่อไม่ไหว ที่ผ่านมาผู้ประกอบการข้าวถุงขายข้าวตัดราคากันเอง ขายต่ำแบบขายขาดทุน เพื่อช่วงชิงตลาดในช่วงที่กำลังซื้อหดตัวอย่างมาก ทำให้ข้าวราคาต่ำผิดปกติ แต่วันนี้ ต้นทุนข้าวสารแพงขึ้นมาก คงจะทนขายขาดทุนต่อไปไม่ไหว ต้องปรับขึ้นราคาแน่นอนในเดือนหน้า”
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.เป็นต้นไป มีสินค้าอีกหลายชนิด ที่มีการปรับขึ้นราคา อาทิ ซอสปรุงรส น้ำจิ้มไก่ น้ำจิ้มสุกี้ และผงชูรส นอกจากนี้ ยังมีก๊าซหุงต้ม ค่าโดยสาร ที่ทยอยปรับขึ้น เนื่องจากภาวะน้ำมันแพงด้วย
ติดตามช่องทางข่าวอื่น ๆ ของคมชัดลึกได้ที่ www.komchadluek.net
ข่าวที่เกี่ยวข้อง