ข่าว

ผลักดัน "แปลงใหญ่ผักพังงา" สู่ครัวอันดามัน นำร่อง 4 อำเภอ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รมว.เกษตรฯ สั่งผลักดัน "แปลงใหญ่ผักพังงา" สู่ครัวอันดามัน สร้างความมั่นคงทางอาหารในพื้นที่ฝั่งอันดามัน ด้านกรมส่งเสริมการเกษตร ขานรับนำร่อง 4 อำเภอ

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน  รมว.เกษตรฯ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ไปตรวจราชการในเขตภาคใต้ได้เห็นถึงศักยภาพเกษตรกรซึ่งเป็น Young Smart Farmer ในเขตตำบลถ้ำน้ำผุด อำเภอเมือง  จ.พังงา ที่ได้ทำกิจกรรมโรงเรียนเกษตรกร มีการปลูกผักเพื่อจำหน่ายสร้างรายได้และมีตลาดรองรับน่าจะสามารถเป็นต้นแบบขยายผลให้กับเกษตรกรผู้ปลูกผักรายอื่นในจังหวัดได้ จึงเกิดแนวคิดที่จะให้มีการพัฒนาต่อยอดจังหวัดพังงาเป็นครัวอันดามัน

     เฉลิมชัย ศรีอ่อน  รมว.เกษตรฯ

 

 รมว.เกษตรฯ กล่าวต่อว่า ตนได้สั่งการให้กรมส่งเสริมการเกษตรเข้าไปส่งเสริมเกษตรกรผู้ปลูกผักของจังหวัดพังงาผ่านระบบส่งเสริม "เกษตรแบบแปลงใหญ่" โดยให้สำนักงานเกษตรจังหวัดพังงา ดำเนินการจัดตั้ง "กลุ่มแปลงใหญ่ผักจังหวัดพังงา" ขึ้นและรายงานความก้าวหน้าให้ทราบเป็นระยะนั้น สำนักงานเกษตรจังหวัดพังงา จึงได้มีการประชุมชี้แจงแนวทางการจำหน่ายพืชผักในห้างสรรพสินค้าขึ้น โดยนำตัวอย่างของกลุ่มแปลงใหญ่ผักบางท่าข้าม อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี มาเป็นโมเดลการบริหารจัดการตลอดห่วงโซ่การผลิตให้กับกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกผักจังหวัดพังงา

 

พร้อมชี้แจงรายละเอียดข้อกำหนดของพืชผักที่จะสามารถนำเข้าไปจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าได้ โดยจะต้องได้รับการรับรองมาตรฐาน GAP และโรงคัดบรรจุผักจะต้องได้รับการรับรองมาตรฐาน GMP ด้วย

 

นอกจากนี้ยังมีการประชุมติดตามความก้าวหน้าและรับฟังปัญหา อุปสรรค ในการดำเนินงานจากเกษตรกรสมาชิกและผู้รับซื้อผลผลิต ซึ่งที่ประชุมมีข้อสรุปให้เกษตรกรสมาชิกทดลองปรับเปลี่ยนมาปลูกชนิดผักที่เป็นที่ต้องการของตลาดและมีการรับซื้อในปริมาณมาก เช่น คะน้า กวางตุ้ง ผักบุ้งจีน ตะไคร้ พริกทุกชนิด บวบ ผักชี ขึ้นฉ่าย ชะอม และกวางตุ้งไต้หวัน โดยเฉพาะชะอมที่มีราคาจำหน่ายสูงถึงกิโลกรัมละประมาณ 90 บาทตลอดทั้งปี  

     เข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร

 

นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า สำนักงานเกษตรจังหวัดพังงาได้ประชุมจัดทำแผนขับเคลื่อนการทำงานร่วมกับ Young Smart Farmer และดำเนินการประชาสัมพันธ์เปิดรับสมัครเกษตรกรที่มีความประสงค์เข้าร่วมเป็นสมาชิก "กลุ่มแปลงใหญ่ผักจังหวัดพังงา" พื้นที่ 4 อำเภอต้นแบบ ได้แก่ อำเภอเมืองพังงา อำเภอทับปุด อำเภอตะกั่วป่า และอำเภอท้ายเหมือง เพื่อเร่งรัดการดำเนินงานตามข้อสั่งการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แล้ว

     เกษตรแปลงใหญ่

 

ทั้งนี้เชื่อว่าโครงการดังกล่าวจะช่วยสร้างความเข้มแข็งให้เกิดขึ้นกับเกษตรกรผู้ปลูกผักในการรวมกลุ่มเพื่อบริหารจัดการ และยังเป็นการสร้างความมั่นคงทางอาหารในพื้นที่ฝั่งอันดามันอีกด้วย

 

สำหรับความก้าวหน้าในด้านการบริหารจัดการ "แปลงใหญ่ผักจังหวัดพังงา" นำร่องในพื้นที่ 4 อำเภอ ขณะนี้มีเกษตรกรที่สนใจเข้าร่วมแล้วจำนวน 112 ราย แยกเป็นอำเภอเมืองจำนวน 20 ราย อำเภอทับปุด จำนวน 30 ราย อำเภอตะกั่วป่า 32 ราย อำเภอท้ายเหมือง จำนวน 32 ราย

 

ในส่วนของการดำเนินงานในขั้นตอนต่อไปนั้น สำนักเกษตรอำเภอแต่ละแห่งจะมีการสำรวจจัดทำข้อมูลเกษตรกรผู้ปลูกผักในพื้นที่พร้อมสำรวจเกษตรกรที่สนใจจะเข้าร่วมโครงการเกษตรแบบแปลงใหญ่ผักเพิ่มเติมโดยให้แกนนำเกษตรกร และแกนนำเกษตรกร (YSF) ในแต่ละพื้นที่ช่วยประชาสัมพันธ์โครงการ และแต่งตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนโครงการระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่ผัก เพื่อทำหน้าที่กำกับดูแลต่อไป 

จากนั้นจัดให้มีการประชุมขับเคลื่อนโครงการฯ เดือนละ1 ครั้งให้สำนักเกษตรอำเภอรายงานความก้าวหน้าโครงการฯ สัปดาห์ละ 1 ครั้ง รวมทั้งประสานติดต่อจุดรับซื้อผลผลิตและเชื่อมโยงการซื้อขายผลผลิตให้กับเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ เช่น โรงแรม ร้านอาหาร

 

นอกจากนี้ยังได้รับความอนุเคราะห์จากวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีพังงาให้ใช้สถานที่ในการสร้างโรงบรรจุภัณฑ์ตามมาตรฐาน GMPโดยสำนักงานเกษตรจังหวัดพังงาประสานเตรียมการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเกษตรกรเข้ามาดำเนินการแล้ว พร้อมทั้งให้นักศึกษาได้มีโอกาสเข้ามาร่วมเรียนรู้ในกิจกรรมดังกล่าวด้วย  อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าว

 

อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวทิ้งท้ายว่า โครงการระบบส่งเสริม "เกษตรแบบแปลงใหญ่" เป็นโครงการที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2559 มอบหมายให้กรมส่งเสริมการเกษตรเป็นหน่วยงานหลักในการประสานงานกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรฯซึ่งเป็นเจ้าของสินค้า

 

การดำเนินงานปี 65 เน้นไปที่การพัฒนาด้านลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การพัฒนาศักยภาพของเกษตรกรสู่ Smart Farmer และความเข้มแข็งของเกษตรกลุ่ม/องค์กรวิสาหกิจชุมชนการทำตลาดและการเชื่อมโยง และต่อยอด ส่งผลดีต่อเกษตรกร/คน พื้นที่ สินค้า ภาครัฐ และอื่น ๆ โดยรายละเอียดเงื่อนไขในการจัดตั้งกลุ่มแปลงใหญ่ ได้แก่

 

1) เกษตรกรสมัครใจรวมกลุ่ม เข้าร่วมดำเนินการ โดยเป็นการรวมแปลงผลิตสินค้าชนิดเดียวกัน โดยที่ที่ตั้งแปลงไม่จำเป็นต้องอยู่ติดกันเป็นผืนเดียว แต่ควรอยู่ภายในชุมชนที่ใกล้เคียงกัน

 

2) ขนาดพื้นที่และจำนวนเกษตรกร ไม้ผล พืชผัก ไม้ดอกไม้ประดับ สมุนไพร หรือพืชอื่น ๆ มีพื้นที่รวมกันไม่น้อยกว่า 300 ไร่ หรือเกษตรกรสมัครใจเข้าร่วมโครงการไม่น้อยกว่า 30 ราย 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ