เปิดใจ แพรพลอย "เด็กนิติ" สวนสุนันทา เจ้าของเหรียญทองซีเกมส์ 2021

นางสาวแพรพลอย หัวใจเพ็ชร นักศึกษาโควตาทุนเพชรนักกีฬา ชั้นปีที่ 2 สาขาวิชานิติศาสตร์ วิทยาลัยการเมืองและการปกครอง “เด็กนิติ” มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา นักกีฬาเยาวชนทีมชาติไทยชุดใหญ่ เจ้าของเหรียญทองซีเกมส์ กีฬาประเภทฟุตซอลหญิง จากการแข่งขันกีฬาแห่งภูมิภาคอาเซียนใน “ซีเกมส์ 2022” หรือ Seagames HANOI 2021 ครั้งที่ 31 ที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม จัดขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 12-23 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา

 

สัมผัสเสี้ยวชีวิตของ "แพรพลอย หัวใจเพ็ชร" สาวน้อยวัย 20 ปี ติดนักกีฬาทีมชาติตั้งแต่อายุ 15 ปี รุ่นเยาวชนอายุไม่เกิน 18 ปี ปัจจุบัน แพรพลอยสังกัดอยู่สโมสรอุทัยธานี KBK) โดยสมาคมฟุบอลแห่งประเทศไทย ได้คัดเลือกนักกีฬาที่มีความโดดเด่นจากสโมสรต่าง ๆ เพื่อให้เป็นนักกีฬาทีมชาติไทย 

แพรพลอย “เด็กนิติ” เป็นคนเดียวของ "สวนสุนันทา" จาก 16 คน ที่ถูกคัดเลือกให้เป็น "นักกีฬาทีมชาติไทย" เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันซีเกมส์ในครั้งนี้ ซึ่งใช้เวลาเก็บตัวนานถึง 5 เดือน ในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งนี้ แพรพลอย ถูกเลือกให้เป็นผู้เล่นตัวจริง ในตำแหน่งหน้าเป้า คือ ตำแหน่งที่ทำประตูให้กับทีม และสามารถทำประตูให้ทีมได้สูงสุด ถึง 3 ประตู เรียกได้ว่าเป็นดาวซันโวลในการแข่งขันซีเกมส์ ทำให้ทีมประสบความสำเร็จสามารถคว้าเหรียญทองจากการแข่งขันมาได้

 

แพรพลอย เล่าว่า ตนเองมีภูมิลำเนาอยู่ที่กรุงเทพฯ ครอบครัวมีคุณพ่อเป็พนักงานบริษัทเอกชน คุณแม่มีอาชีพพนักงานบริษัทเอกชน มีพี่น้อง 2 คน มีพี่ชาย 1 คน ชื่อนายจิรพัฒน์ หัวใจเพ็ชร เรียนอยู่ชั้นปีที่ 4 ที่มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตสมุทรสาคร ปัจจุบัน พี่ชายเป็นนักกีฬาฟุซอลหลีกอาชีพ สังกัดสโมสร NT ส่วนตนเองเป็นคนสุดท้อง จบจากโรงเรียนสามชุกรัตนโภคาราม จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเป็นโรงเรียนที่เป็นแหล่งรวมนักกีฬาฟอซอลหญิงอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย โดยเข้าศึกษาตั้งแต่ชั้นม.2 กระทั่งสำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายชั้นปีที่ 6(ม.6) และได้เลือกสมัครสอบเข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา "สวนสุนันทา" จากการชักชวนของโค้ชโจ นายวัลลพ ช้างเจริญ โค้ชผู้ฝึกสอนฟุตซอลหญิง อายุเพียง 40 ปี

“มีหลายเหตุผลที่หนูเลือกสมัครเรียนที่สวนสุนันทา ก็เพราะว่า อยากกลับมาช่วยงานโค้ชโจ รวมถึงที่สวนสุนันทามีทุนโควตาทุนเพชรนักกีฬา 100% และที่เลือกเรียนสาขาวิชานิติศาสตร์ก็เพราะว่า มีรุ่นพี่เป็นตำรวจอยู่สายปราบปราม อีกอย่างหนูเป็นคนชอบแนวบู๊อยู่แล้ว รวมถึงคุณพ่อคุณแม่ก็สนับสนุนด้วย จึงได้เลือกเรียนสาขาวิชานิติศาสตร์” แพรพลอย “เด็กนิติ” ย้อนที่มทำไมเลือกเรียนที่ “สวนสุนันทา”

 

แพรพลอย เล่าอีกว่า แรงบันดาลใจในการติดทีมชาติครั้งนี้ มีรุ่นพี่จากโรงเรียนสามชุกเป็นไอดอล ซึ่งตอนนี้เป็นตำรวจอยู่กองปราบฯและเป็นนักกีฬาทีมชาติด้วยเหมือนกัน สำหรับการเป็นนักกีฬาทีมชาติไทย ถือเป็นความฝันอันสูงสุดของชีวิต มีความมุ่งมั่นจะต้องติดทีมชาติให้ได้ และเป็นใบเบิกทางในการเข้าสู่สายงานอาชีพตำรวจปราบปรามอีกด้วย

 

“สำหรับการบริหารจัดการเวลาของการเรียนและการเป็นนักกีฬาทีมชาติ ทำอย่างไรที่จะไม่ส่งผลกระทบต่อการเรียน ก็จะต้องบริหารจัดการเวลาให้ดี เพราะตอนที่ติดทีมชาติอยู่ในช่วงการเรียนออนไลน์ อาจารย์แต่ละท่านในทุกวิชามีส่วนช่วยสนับสนุนเป็นอย่างดี รวมไปถึงเพื่อน ๆ ด้วย ซึ่งหนูก็ติดตามงาน การบ้านย้อนหลังทุกครั้ง ส่งงานให้ครบ มีเวลาว่างทุกครั้งต้องทบทวนหนังสือ ตำราเรียนมาก ๆ ทั้งก่อนสอบ หลังจากเลิกฝึกซ้อมกีฬาก็กลับมาดูคลิปวีดิโอการเรียนการสอนเพิ่มเติม” แพรพลอย เล่าด้วยสีหน้าเปื้อนรอยยิ้ม

 

กลายเป็น “เด็กนิติ” ได้อย่างไร แพรพลอย เล่าว่า เหตุผลที่เลือกเรียนสาขาวิชานิติศาสตร์ นั้น ในความเห็นส่วนตัวคิดว่า นิติศาสตร์ ทำให้เรารู้กฎหมายหลาย ๆ ด้าน ที่สำคัญกฎหมายในชีวิตประจำวัน เพราะจะทำให้เรารู้เท่าทัน ไม่ถูกใครหลอกง่าย ๆ รวมถึงทำให้กระบวนการคิดของเราเป็นระบบ มีเหตุผล ใครจะทำอะไรใช้กฎหมายเป็นตัวเชื่อมความถูกต้อง เหตุการณ์จะทำให้เราฝึกคิด ป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา หรือจะต้องมีการแก้ไขปัญหาเฉพาะได้เป็นอย่างดี ฝึกให้เรามีปฏิภาณไหวพริบที่ดีในการดำเนินชีวิต รวมไปถึงการเรียนด้วย

 

“รู้สึกดีใจอย่างที่สุดที่ความฝัน ความมุ่งมั่นของตนเองประสบความสำเร็จไปอีกก้าวหนึ่ง การเป็นนักกีฬาทำให้เราเกิดไหวพริบ สร้างความแข็งแกร่ง อดทนและก้าวข้ามผ่านปัญหาและอุปสรรคไปได้ การเป็นนักกีฬาจะมีความกดดันเป็นพิเศษ จะฝึกให้เรามีความอดทนมุ่งมั่นที่จะทำทุกอย่างให้ประสบความสำเร็จ ไม่ยอมแพ้ต่อปัญหาอุปสรรคใดๆ ที่สำคัญฝึกให้เรามีน้ำใจเป็นนักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ และรู้อภัย” แพรพลอย กล่าวด้วยรอยยิ้ม

 

อรวรรณ สุขมา : เรื่อง

สุรชาติ ตรีโอษฐ์ : ภาพ