รวบครบแก๊ง "ฆ่ายัดศพ" ที่ไต้หวัน สารภาพช่วยกันใช้เหล็กตี

หลังจากที่ศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาคดีฆาตกรรม 2 สามีภรรยายัดศพหมกท้ายรถที่ไต้หวัน ทั้งหมด 3 ราย ต่อมาสามารถจับกุมได้ 2 ราย คือ นายสันติ ศุภอภิรดีไพลิน  และ นายธนวัฒน์ พุ่มเข็มทอง ไปแล้วนั้น ล่าสุดผู้ต้องหารายสุดท้ายติดต่อขอเข้ามอบตัวที่ จ.เชียงราย เนื่องจากทนแรงกดดันจากการล่าตัวไม่ไหว ก่อนจะถูกนำตัวมาสอบปากคำที่กองบังคับการปราบปราม
 

เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน เวลา 17.00 น. ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม ผกก.1 บก.ป. พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.4 บก.ป. นายอีธาน หลิน (Ethan Y.H. Lin)ทูตตำรวจไต้หวันประจำประเทศไทย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงจับกุม นายสามารถ แซ่หลี อายุ 33 ปี ผู้ต้องหา "ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไต่ตรองไว้ก่อน" โดยนายสามารถติดต่อขอมอบตัวบริเวณหมู่บ้านแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย

พล.ต.ท.จิรภพ เปิดเผยว่า สืบเนื่องมาจากเหตุฆาตกรรม น.ส.พจนีย์ แซ่หลี่ หรือ มี่ อายุ 35 ปี และ นายประเสริฐ โนราษ อายุ 32 ปี สองสามีภรรยาชาวไทยที่ไต้หวัน ซึ่งทางสํานักงานตํารวจแห่งชาติ  ได้สั่งการให้บช.ก.ดําเนินการสืบสวนติดตามตัวผู้ก่อเหตุ ต่อมาในเมื่อวันที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมา นายสันติ หนึ่งในผู้ก่อเหตุ ได้หลบหนีกลับเข้ามาในประเทศไทยและได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตํารวจ ที่หมู่บ้านอรุโณทัย หมู่ 10 ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ตํารวจ จึงได้จับกุมตัวนําส่งพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม จากการสืบสวนเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่ตํารวจพบพยานหลักฐานที่น่าเชื่อว่าในการก่อเหตุฆาตกรรมดังกล่าว มีผู้ร่วมขบวนการอีก 2 ราย ประกอบด้วย นายธนวัฒน์ พุ่มเข็มทอง ซึ่งถูกจับกุมที่ บริเวณหน้าบ้านไม่มีเลขที่ ต.ดงมูล อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา และนายสามารถ แซ่หลี ผู้ต้องหารายนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ป. และ กก.4 บก.ป. จึงนำกำลังลงพื้นที่ติดตามจับกุมตัวนายสามารถได้ดังกล่าว

จากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ตนและนายธนวัฒน์ ร่วมกันใช้ท่อนเหล็กข้ออ้อยตีสองสามีภรรยาจริง ส่วนนายสันติเป็นผู้ล็อคตัว จากนั้นนำศพขึ้นรถเก๋งไปจอดทิ้งไว้ที่ลานจอดรถ โดยนายสามารถและนายธนวัฒน์ไม่รู้จักกับผู้ตายแต่อย่างใด เพียงแค่สนิทกับนายสันติเท่านั้น ซึ่งความขัดแย้งยังไม่แน่ชัด ถือเป็นการจับกุมผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด ขณะนี้ยังไม่พบผู้ที่ให้การช่วยเหลือหลบหนี 

พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวอีกว่า ขณะนี้สามารถดำเนินคดี 3 ผู้ต้องหา ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน แต่ยังไม่สามารถดำเนินคดีอำพรางศพได้ เนื่องจากมาตรา 8 ไม่ได้ให้อำนาจไว้

ด้านนายอีธาน กล่าวว่า ขอบคุณเจ้าหน้าที่ไทย ที่ดำเนินการอย่างรวดเร็ว จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดได้ โดยคดีนี้เป็นคดีที่ใหญ่มากและเป็นคดีที่แสดงถึงความสำเร็จในการประสานงานของตำรวจไทยและไต้หวัน ส่วนประเด็นที่ทางผู้ต้องหาอ้างถึงธุรกิจมืดนั้น ทางไต้หวันไม่ได้ตัดประเด็นนี้แต่อย่างใด อยู่ระหว่างการสอบสวน