"ครม." รับทราบแนวทางหักค่ากลั่นเข้ากองทุน "น้ำมัน" คาดชัดเจนสัปดาห์นี้
ที่ประชุม "ครม." รับทราบแนวทางขอความร่วมมือหักค่ากลั่นเข้ากองทุน "น้ำมัน" คาดชัดเจนในสัปดาห์นี้ "สุพัฒนพงษ์" ขออย่าพึ่งกดดัน
ที่ประชุมคณะรับมนตรี "ครม." รับทราบแนวทางขอความร่วมมือหักค่ากลั่นเข้ากองทุน "น้ำมัน" คาดชัดเจนในสัปดาห์นี้ ขณะที่ รองนายกฯ สุพัฒนพงษ์ ขออย่าพึ่งกดดัน ยอมรับสถานการณ์จับทางยากในการออกมาตรการช่วยเหลือระยะยาว ต้องคำนึงหลายปัจจัย
โดย นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวภายหลังประชุม ครม. ว่า มีการรายงานในที่ประชุมและพูดคุยถึงมาตรการขอความร่วมมือจากโรงกลั่นเอกชนนำเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นเวลา 3 เดือน ส่วนจะส่งเข้ากองทุนได้เท่าไร น่าจะได้ข้อยุติภายในสัปดาห์นี้ อย่าเพิ่งกดดัน ขอใช้เวลาหารือเพื่อหาตัวเลขที่เหมาะสมและรับได้ทั้ง 2 ฝ่าย แต่ยังตอบไม่ได้ว่าจะมากกว่าหรือน้อยกว่า 8,000 ล้านบาท โดยบรรยายกาศหารือเป็นไปได้ด้วยดี ได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย และผู้ประกอบการก็เข้าใจสถานการณ์ปัจจุบัน ส่วนตัวแทนกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงก็ได้ชี้แจงและขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการโรงกลั่น
เมื่อถามว่า โรงกลั่นจะต้องส่งเงินเข้ากองทุนน้ำมันหรือไม่ หากมีการออกเป็นนโยบายมาแล้ว นายสุพัฒนพงษ์ บอกว่า ต้องดูความร่วมมือให้เข้าใจตรงกันและเข้าไปดูวิธี และช่องทางการกฎหมาย ตอนนี้ยังไม่อยากใช้อำนาจไปบังคับ แต่อาศัยความร่วมมือและจำนวนเงินที่ตกลงกันได้ ส่วนจะสนับสนุนผ่านช่องทางไหนก็ไปดู
ส่วนที่พรรคกล้าระบุว่าควรจะออกเป็น พ.ร.ก. เพื่อเป็นแนวทางให้โรงกลั่นนั้น นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า อาจจะมีความรู้ทางกฎหมาย แต่จากนี้ต้องหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทางกฎหมาย ซึ่งการพูดคุยในตอนนี้อยู่บนพื้นฐานความร่วมมือของผู้ประกอบการโรงกลั่นที่ยินดีให้ความร่วมมือ จึงขออย่าสร้างเงื่อนไข ส่วนผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร ขอให้รอผลการประชุมสัปดาห์นี้
เมื่อถามว่า หากได้ข้อสรุปแล้วจะสามารถประกาศใช้ได้เลย หรือต้องนำเข้า ครม.สัปดาห์หน้าหรือไม่ นายสุพัฒนพงษ์ บอกว่า ให้รอดู ซึ่งที่ประชุม ครม.วันนี้ ได้รับทราบถึงแนวทางความร่วมมือ
ส่วนแผนการช่วยเหลือระยะยาวนั้น ยอมรับว่า เป็นโจทย์ใหญ่ที่ต้องไปดูถึงสาเหตุ ขณะนี้ปัญหาอยู่ที่น้ำมันดีเซลที่ปรับตัวขึ้นตามกลไกตลาด คาดว่ามาตรการระยะยาวจะเป็นความช่วยเหลือเฉพาะกลุ่มเปราะบาง และผู้ที่ได้รับผลกระทบจริงๆ และยอมรับว่า สถานการณ์จับทางยาก อีกทั้งวิกฤตพลังงานเกิดขึ้นทั่วโลก หากจะทำการสิ่งใดต้องคำนึงถึงอัตราเงินเฟ้อและค่าครองชีพด้วย