สคบ.ลุยตรวจร้านดารุมะ ซูชิ คูปองทิพย์ พบพฤติกรรมเจ้าของร้าน เจตนาฉ้อโกง
สคบ.ลุยตรวจร้านดารุมะ ซูชิ คูปองทิพย์ พบพฤติกรรมเจ้าของร้าน เจตนาฉ้อโกง รู้ว่าธุรกิจไม่ดี แต่ระดมทุนขายคูปองราคาถูก ได้เงินแล้วหนี พบเดินทางออกนอกประเทศตั้งแต่17มิ.ย.
พันตำรวจเอก ประทีป เจริญกัลป์ รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือสคบ พร้อมคณะ ลองพท้นที่ ตรวจสอบร้าน ดารุมะซูชิ บุฟเฟ่ต์แซลม่อน ที่ปิดร้านกะทันหันแต่ขายคูปองให้ลูกค้ากว่าแสนใบ ไม่สามารถใช้บริการได้
จากการตรวจสอบ สาขาเดอะแจส รามอินทรา พบว่า ร้านปิดเหมือน สาขาอื่นๆ โดยหน้าร้าน เขียนป้ายว่า ขอภัยค่ะ ปิดบริการ โดยทางผู้ให้เช่าสถานที่ ให้ข้อมูลว่า ทางร้าน ค้างค่าเช่า2เดือนแล้วก็หายไป
ซึ่งปกติร้านนี้ขายดีมาก ลูกค้ามารอเต็มหน้าร้าน แต่เมื่อวันศุกร์ช่วงเช้าร้านเปิดก็มีลูกค้ามารอจนกระทั่งรู้ข่าวว่าร้านปิดบริการ ทางสถานที่ให้เช่าก็พึ่งทราบข่าววันเดียวกัน
พันตำรวจเอกประทีป ระบุว่า พฤติกรรมของเจ้าของร้าน ส่อเจตนาฉ้อโกง เนื่องจาก เจ้าของร้าน รู้ตัวอยู่แล้วว่าธุรกิจไม่ดี จึงจัดโปรโมทเร่งระดม โปรโมชั่น ยิ่งซื้อเยอะจะได้ราคาถูก และพึ่งทำได้ไม่นาน พอได้เงินก็ไป
โดยทางสคบ. ออกหนังสือเรียกนายเมธา ชลิงสุข เจ้าของกิจการ มาให้ข้อมูลแล้ว แต่ติดต่อไม่ได้
จากการตรวจสอบข้อมูลกับ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง พบว่า นายเมธา เดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว
ซึ่งข้อมูลของสคบ.ตรวจพบว่า ช่วงแรก เจ้าของร้าน ประกอบธุรกิจอาหารจริง แต่ประสบปัญหาหนี้สิน จึงจัดโปรโมชั่น แต่ราคาไม่สอดคล้องกับสถานการณ์จริง ต้นทุนสูงแต่ ขายถูก และยังมีหนี้สินจากซัพพลายเออร์ และค้างค่าเช่าที่ จึงระดมจัดโปร 199 กินไม่อั้น และพึ่งขายได้ไม่นาน การกระทำนี้ คือ เจตนาฉ้อโกง
ในส่วนของการดำเนินการตรวจสอบ ต้องแยกเป็น5 กลุ่ม
1. กลุ่มผู้เสียหายที่ซื้อคูปอง
2. กลุ่มพนักงานในร้าน
3.แฟรนไชส์
4.ซัพพลายเออร์ง
5. กลุ่มเจ้าของสถานที่
กรณีนี้การซื้อขายคูปองทางแอพพลิเคชั่น หากปิดแอพไปก็จะไม่มีหลักฐาน จึงขอให้ผู้เสียหาย ให้ปริ้นเอกสารไว้เพื่อเป็นหลักฐานดำเนินคดีได้
หลังจากนี้ ทางสคบ.จะหามาตราการในการควบคุมดูแล กลุ่มผู้ประกอบการที่จัดโปรโมทชั่นแบบนี้ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย และให้ประชาชน สังเกตุความผิดปกติ ราคาถูกเกินไปหรือไม่ ราคาเป็นแรงจูงใจ จ่ายก่อน บริการทีหลัง ให้ดูรายละเอียดให้ดี
ส่วนกรณีของกลุ่มผู้ค้า ที่กดคูปองมาขายต่ออีกครั้ง ตามนิติกรรมสัญญา คนที่รับผิดชอบโดยตรง คือคนที่กดคูปองมาขาย แต่เรื่องนี้ต้อฃไปตรวจสอบอีกครั้ง รวมทั้งผู้ซื้อแฟรนไชส์ด้วย ว่ารู้เห็นหรือไม่ และเส้นทางการเงิน การซื้อคูปอง เงินเข้าบริษัทโดยตรง หรือผ่านสาขา