แจ้งจับ "เจ้าของบุฟเฟ่ต์แซลมอน" ซื้อแฟรนไชส์นับล้าน ยังไม่เปิด ก็พังซะแล้ว

มหากาพย์สายบุฟเฟ่ต์ หลังร้านปลาแซลมอนชื่อดัง ขายคูปองส่วนลด ในราคาเพียง 199 บาท ซึ่งมีลูกค้าจำนวนมากซื้อคูปองเก็บไว้ แต่สุดท้ายร้านติดป้ายแจ้งปิดทุกสาขา ปิดเพจเฟซบุ๊ก ปิดแอปพลิเคชั่น ซึ่งงานนี้มีผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนหลายส่วนทั้ง แม่ค้าคนกลางที่ซื้อคูปองกักตุนไว้เพื่อขายต่อ ลูกค้า รวมถึงร้านแฟรนไชส์ที่มีประมาณ26สาขา 

วันนี้ 20 มิ.ย. 65 นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พา 2 ผู้เสียหายในฐานะตัวแทนแฟรนไชส์ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อดำเนินคดีกับผู้บริหารหรือเจ้าของร้าน ในคดีฉ้อโกง หลังขายคูปองให้ลูกค้ากว่า 100,000 ใบ แต่ไม่ยอมส่งวัตถุดิบ ปลาแซลมอน มาให้ที่สาขาแฟรนไชส์ ทำให้ได้รับความเสียหายอย่างมากและต้องปิดตัวลง

นายเอกภพ กล่าวว่า ได้พาเจ้าของร้านดังซึ่งเป็นผู้เสียหาย 2 ราย โดยมีรายหนึ่งจ่ายเงินทำสัญญากว่า 2.5 ล้านบาทตั้งแต่เมื่อ 2 เดือนก่อน แต่จนตอนนี้ยังไม่ได้เปิดสาขา อีกรายจ่ายเงินแล้ว 2 ล้านบาท แต่เปิดร้านได้ 2 เดือนก็ต้องปิดตัวลงเพราะไม่มีวัตถุดิบมาส่ง ทำให้ลูกค้ามาต่อว่า จนพามาแจ้งความในวันนี้
 

ด้านน.ส.เอ๋ (นามสมมติ) ตัวแทนแฟรนไชส์ ย่านวัชรพล กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยได้รับการชักชวนให้มาทำร้านอาหาร แต่ยังไม่มั่นใจ กระทั่งร้านดังกล่าวขยายสาขา มากถึง 20 แห่ง ทำให้มองว่ามีความน่าเชื่อถือ จึงตกลงทำสัญญาจ่ายเงินไป 2.5 ล้านบาท คาดว่าน่าจะเป็นสาขาที่ 26 ซึ่งตามจริงมีกำหนดเปิดร้านเมื่อวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา แต่เกิดเรื่องเสียก่อนทำให้ไม่สามารถเปิดร้านได้ ซึ่งเจ้าของอ้างว่า ไม่มีความรู้ด้านธุรกิจอาหารก็สามารถทำธุรกิจได้ แค่จ่ายเงินค่าสาขา พร้อมการันตีรายได้ว่าจะได้เงินจากยอดขาย 10% พร้อมให้ไอแพดไว้ 1 เครื่องมาดูยอดลูกค้าและการใช้คูปอง ยังหวังว่าตัวเจ้าของจะกลับมารับผิดชอบ ไม่ทราบว่ายังอยู่ในประเทศหรือแอบออกนอกประเทศไปแล้ว

ด้านน.ส.น้ำ (นามสมมติ) ตัวแทนแฟรนไชส์ ย่านสายไหม กล่าวว่า ตนเองเป็นลูกค้าประจำ เห็นมีการติดประกาศหน้าร้าน เพื่อโฆษณาชักชวนให้มาซื้อแฟรนไชส์ ทำให้สนใจทำร้านอาหาร จึงติดต่อทำสัญญาเปิดร้านที่ย่านสายไหม ซึ่งทางเจ้าของจะทำหน้าที่จัดการดูแลบริหารทุกอย่าง ตนแค่รอรับผลกำไร มองว่าเป็นการลงทุนทำร้านอาหารทั่วไป ซึ่งช่วงแรกก็ไม่มีปัญหา กระทั่งเดือนที่ผ่านมา วัตถุดิบส่งช้า ขาดส่ง และไม่สามารถติดต่อได้ ได้สอบถามได้ยังเจ้าของบริษัท ก็อธิบายผ่านไลน์กลุ่มเรื่องที่ปลาแซลม่อนไม่พอว่า ผู้จัดหาต้นทาง หาวัตถุดิบไม่ได้ แล้วเงียบหายไป ก่อนจะติดต่อไม่ได้ ซึ่งตอนนี้ประกอบธุรกิจไม่ได้เลย แม้จะอยากทำต่อ  ไม่รู้ว่าจะตกเป็นผู้ต้องหาด้วยหรือไม่ เพราะหนึ่งวันก่อนเกิดเรื่อง ตนยังเปิดร้านปกติ

น.ส.นุ่น ระบุว่า ทางร้านกำหนดเงื่อนไขให้ทำโปรโมชั่น 199 บาทด้วย เพราะตนรับคูปองมาขายให้ลูกค้า ซึ่งเขายืนยันว่าทำได้ แม้ว่าปลาแซลม่อนมีจะราคาสูงก็ตาม โดยก่อนตัดสินใจซื้อแฟรนไชส์ เห็นว่าเขาสามารถขยายสาขาได้ มีความน่าเชื่อถือ มีวิธีการคุยเหมือนเป็นเพื่อนสนิท ดูจริงใจ และก่อนหน้านี้ก็จัดโปรโมชั่นมาตลอด ไม่มีวี่แววว่าจะเกิดปัญหา แรกๆ มีคูปอง 250 บาท ก่อนลดลงเป็น 199 บาทอย่างที่ผ่านมา สำหรับเงื่อนไขการทำร้านแฟรนไชส์คือ จะต้องนำวัตถุทุกอย่างจากทางร้านเจ้าของ หากซื้อวัตถุดิบจากร้านอื่นจะถือว่าผิดสัญญา ส่วนเรื่องรายได้นั้น จะต้องโอนเงินแต่ละวันให้เจ้าของ ก่อนจะโอนกลับมา 10% ในแต่ละเดือน แต่หากคิดจากยอดค่าใช้จ่ายในการซื้อวัตถุดิบแต่ละเดือนกลับไม่มีกำไรเลย เปิดร้านได้ 2 เดือน เดือนละประมาณหลักแสนบาท รวมๆ ยังได้กลับมาไม่ถึงครึ่ง ตอนนี้ก็ต้องปิดตัวลง