ข่าว

"สันติ" มือฆ่ายกครัวยัดท้ายรถ ปฏิเสธเป็นคนฆ่า ตำรวจเตรียมฝากขังพรุ่งนี้

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ผบ.ตร. แถลงจับกุม"สันติ" ผู้ต้องหาฆ่ายกครัวยัดท้ายรถ เผยเจ้าตัวให้การภาคเสธ ไม่ได้เป็นคนฆ่า แต่มีพูดโยงถึงบุคคลอื่น

เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 65 เวลา 16.30 น. ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และเจ้าหน้าที่กองปราบปราม ร่วมแถลงจับกุมนายสันติ หรือ หวัง ศุภอภิรดีไพลิน อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาในคดีฆ่ายกครัวกับท้ายรถที่ไต้หวัน ก่อนหลบหนีมายังประเทศไทย สามารถจับกุมได้เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ ที่ บ้านอรุโณทัย หมู่ที่ 10 ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ 

 

พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา นายสันติ ได้ก่อเหตุฆ่าสองสามีภรรยาชาวไทย โดยภรรยากำลังตั้งครรภ์แฝด อายุครรภ์ประมาณ 5 เดือน เหตุเกิดที่บริเวณสำนักงานของนายสันติ ในเขตถู่เฉิง เมืองชินเปย ไต้หวัน จากนั้นนายสันติได้นำร่างของผู้ตายทั้งสองราย ใส่ไว้ในรถยนต์ของผู้ตาย แล้วนำไปจอดทิ้งไว้ที่ลานจอดรถ บริเวณเขตถูเฉิง เมืองซินเปย ไต้หวัน จากนั้นได้หลบหนีไป

 

จากการตรวจสอบ พบว่า หลังเกิดเหตุ ในวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา เวลาประมาณ 13.00 น. นายสันติ ได้เดินทางเข้ามาที่ประเทศไทยผ่านทางสนามบินสุวรรณภูมิ แและเดินทางโดยเครื่องบินต่อไปยังจ.เชียงใหม่ ในวันเดียวกัน เพื่อทำการหลบหนี โดยพล.ต.ท.จิรภพ  พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง จึงได้เร่งสืบสวนและสอบปากคำพ่อและพี่ชายของผู้ตาย และประสานกับทางการไต้หวันเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับ จนกระทั่งช่วงเช้าวันนี้ (17 มิถุนายน) เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ได้รับการติดต่อจาก นายสุชาติ ศุภอภิรดีไพลิน บิดานายสันติ เพื่อนำตัวนายสันติเข้ามอบตัว ที่หมู่บ้านอรุโณทัย หมู่ 10 ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ จึงเดินทางรับตัวมาดำเนินคดี 

พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวอีกว่า สอบสวน นายสันติให้การภาคเสธ ว่าไม่ได้ลงมือก่อเหตุแต่ได้พาดพิงไปยังบุคคลอื่น ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากเกรงว่าจะกระทบต่อรูปคดี ซึ่งหากมีความจำเป็น ก็อาจต้องให้พนักงานสอบสวนประสานกับทางตำรวจไต้หวันเพื่อสอบสวนเพิ่มเติม ในกรอบระยะเวลา 84 วัน ก่อนสรุปสำนวนและมีความเห็นทางคดีส่งพนักงานอัยการพิจารณา ส่วนกรณีที่ผู้ตายตั้งครรภ์ลูกแฝด จะเป็นเหตุให้ผู้ต้องหาได้รับโทษหนักขึ้นหรือไม่นั้น พนักงานสอบสวนจะบรรยายพฤติกรรมทางคดีอย่างละเอียดเพื่อชี้ให้ศาลเห็นการกระทำและพิจารณาลงโทษผู้ต้องหา อย่างไรก็ตาม ในชั้นนี้ยังไม่สามารถดำเนินคดีเรื่องการอำพรางศพได้ เนื่องจากเหตุเกิดขึ้นที่ไต้หวันโดยทางพนักงานสอบสวนกองปราบปรามจะดำเนินคดีเฉพาะในส่วนของข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา

 

ทั้งนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคดีนี้ถือเป็นความผิดต่อชีวิต ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 เป็นกรณีที่ผู้กระทำความผิดเป็นคนไทย และต่อมาบิดาของผู้ตาย ซึ่งเป็นผู้เสียหายตามกฎหมาย ได้ร้องขอให้ลงโทษผู้ต้องหา จากความผิดดังกล่าว นายสันติผู้ต้องหาจะต้องได้รับโทษในราชอาณาจักร ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 8 (ก) วรรคสอง (4) ดังนั้นคดีดังกล่าวจำต้องชำระคดีที่ศาลไทย ไม่จำเป็นต้องส่งตัวผู้ต้องหาในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนไปยังที่เกิดเหตุ

พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวอีกว่า กองบังคับปราบปราม สามารถทำการสอบสวนดำเนินคดีกับนายสันติได้ตามกฎหมาย โดยจะดำเนินการส่งตัวผู้ต้องหาฟ้องร้องที่ศาลอาญา ซึ่งศาลอาญามีอำนาจลงโทษนายสันติได้เช่นเดียวกับคดีอาญาทั่วไป แต่อย่างไรก็ตาม ความผิดในคดีนี้ถือเป็นความผิดที่เกิดขึ้นนอกราชอาณาจักร ซึ่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 20 ได้บัญญัติให้อัยการสูงสุดหรือผู้รักษาราชการแทนโดย เป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ ซึ่งพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม จะได้รายงานให้สำนักงานอัยการสูงสุดทราบเป็นลำดับต่อไป ส่วนในกรณีที่ผู้ต้องหากล่าวอ้างว่าเป็นบุคคลต่างด้าวนั้น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 8 (ข) สามารถดำเนินคดีกับผู้ต้องหาได้เช่นเดียวกัน เนื่องจากในคดีนี้มีคนไทยเป็นผู้เสียหาย และผู้เสียหายได้มีการร้องขอให้ลงโทษตามกฎหมายแล้ว

ด้าน พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า การสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องหายังคงยืนยันว่าไม่ได้ลงมือสังหารผู้ตาย แต่ยอมรับว่ารู้เห็นในเหตุการณ์บางส่วน ซึ่งทางตำรวจเองยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของผู้ต้องหา ส่วนสาเหตุนั้นอยู่ระหว่างการสอบสวนว่าเป็นไปตามข่าวที่เกิดขึ้นหรือไม่ อย่างไรก็ตาม วันพรุ่งนี้ (18 มิถุนายน) จะนำตัวผู้ต้องหาฝากขังต่อศาลอาญา และจะไม่นำตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติมแต่อย่างใด

ด้าน นายอีธาน หลิน ทูตตำรวจไต้หวันประจำประเทศไทย กล่าวว่า คดีนี้เป็นข่าวใหญ่ที่ไต้หวัน และเมื่อประสานมายังตำรวจไทย ก็ได้รับความร่วมมืออย่างดีและรวดเร็ว

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ