ข่าว

เตือนเกษตรกรทั่วประเทศเฝ้าระวัง "แมลงดำหนามข้าว"

17 มิ.ย. 2565

กรมส่งเสริมการเกษตร แจ้งเตือนเกษตรกรทั่วประเทศเฝ้าระวัง "แมลงดำหนามข้าว" พบระบาดในพื้นที่นาข้าวภาคกลาง หมั่นสำรวจแปลง หากพบรีบแจ้งเจ้าหน้าที่เกษตรอำเภอใกล้บ้าน เพื่อสกัดลุกลามพื้นที่ใกล้เคียง

นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมการเกษตรรับรายงานว่า ขณะนี้พบการเข้าทำลายของ "แมลงดำหนามข้าว" ในพื้นที่ปลูกข้าวของเกษตรกรจังหวัดสิงห์บุรีเป็นจำนวนมากโดยแมลงดังกล่าวจะกัดกินเนื้อเยื่อส่วนสีเขียวบริเวณใบข้าวทั้งที่เป็นระยะตัวหนอนและตัวเต็มวัย ทำให้ใบข้าวเสียหาย เป็นรอยไหม้ ทำให้ผลผลิตลดลง

      นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร

 

ขณะนี้กรมส่งเสริมการเกษตรได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรทุกระดับเร่งสำรวจ เฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์การระบาดของ "แมลงดำหนามข้าว" อย่างต่อเนื่องรวมถึงประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวในพื้นที่ สำรวจแปลงปลูกข้าวอย่างสม่ำเสมอ ให้คำแนะนำการป้องกันกำจัด"แมลงดำหนามข้าว"กับเกษตรกรเพื่อเป็นแนวทางในการแก้ปัญหา

     เฝ้าระวังการระบาดของ "แมลงดำหนามข้าว" 

 

เบื้องต้นกรมส่งเสริมการเกษตรจึงแจ้งเตือนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวทุกภาคของประเทศไทยโดยเฉพาะพื้นที่ภาคกลางให้เฝ้าระวังการระบาดของ "แมลงดำหนามข้าว" ด้วย

 

อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เผยอีกว่า สำหรับวิธีการสังเกต ลักษณะรูปร่างของ "แมลงดำหนามข้าว"ตัวเต็มวัย จะมีปีกแข็งสีดำและมีหนามแข็งแหลมปกคลุมลำตัวความยาวประมาณ 5-6 มิลลิเมตร    ตัวเมียชอบวางไข่บริเวณปลายใบข้าวอ่อนโดยตัวเต็มวัยมีอายุประมาณ 14 - 21 วัน ส่วนตัวหนอน มีลำตัวแบนสีขาว สามารถกัดกินเนื้อเยื่อภายในผิวใบข้าวได้  

 

ส่วนวิธีป้องกันและกำจัด ให้เกษตรกรหมั่นสำรวจแปลงนาข้าวอย่างสม่ำเสมอในช่วงเช้าและช่วงเย็น กำจัดวัชพืชบริเวณแปลงนาและคันนา เนื่องจากวัชพืชบางชนิดเป็นที่อาศัยของ "แมลงดำหนามข้าว" ไม่ควรใช้ปุ๋ยไนโตรเจนมากจนเกินไปและควรอนุรักษ์ศัตรูธรรมชาติ ได้แก่ แตนเบียนไข่และแตนเบียนหนอน

 


 

คำแนะนำกำจัด "แมลงดำหนามข้าว"

 

กรณีสำรวจพบตัวเต็มวัยของ "แมลงดำหนามข้าว" มากกว่า 2 ตัวต่อกอหรือกลุ่มต้นข้าว ควรใช้สารกำจัดฉีดพ่น เช่น ฟิโปรนิล หรือคลอไทอะนิดีน อัตราตามที่ฉลากแนะนำ หากพบการระบาดให้ติดต่อเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอหรือสำนักงานเกษตรจังหวัดใกล้บ้าน เพื่อขอคำแนะนำในการควบคุมการระบาด และสกัดกั้นไม่ให้ลุกลามไปยังพื้นที่อื่นต่อไป