"พรรคกล้า" ขอบคุณรัฐบาล รับฟังวิธีแก้ปัญหาน้ำมันแพง

หลังจากพรรคกล้า ออกมาแนะแนวทางแก้ปัญหาราคาน้ำมัน โดยเสนอให้กำหนดเพดานค่าการกลั่น เพื่อเป็นเครื่องมือป้องกันการค้ากำไรเกินควร , เสนอเก็บภาษีลาภลอย (Windfall Tax) และจริงจังกับมาตรการประหยัดการใช้พลังงาน เนื่องจากขณะนี้ประเทศไทยเป็นหนี้ระดับ 8.6 หมื่นล้านบาท สูงที่สุดในประวัติการณ์ หรือมีหนี้สิ้นเพิ่มเดือนละ 20,000 ล้านบาททุกเดือน และภายในสิ้นเดือนนี้ถ้าไม่มีการปรับเปลี่ยนนโยบาย หนี้จะเพิ่มทะลุ 100,000 ล้านบาท

โดยที่เมื่อวานนี้ (16 มิ.ย.) ที่ประชุุมหน่วยงานเศรษฐกิจเพื่อบรรเทาผลกระทบจากราคาน้ำมันแพง และลดผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อ ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธาน มีมติเก็บกำไรโรงกลั่นและโรงแยกก๊าซ 8,000 ล้านบาทต่อเดือน  ทำให้มีเงินเข้าสู่กองทุนน้ำมันประมาณเดือนละ 6,000 – 7,500 ล้านบาท

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า ขอบคุณทางรัฐบาลที่ขานรับประเด็นเรื่องค่าการกลั่นโดยเร็วครับ ขอให้ถือว่าเรามาช่วยกันทำงานเพื่อบ้านเมือง ทีมทำงาน พรรคกล้า - KLA Party ดีใจที่วันนี้ประชาชนได้เงินกลับมา 24,000 ล้านบาททันที 

ส่วนแค่นี้ดีที่สุดแล้วหรือยัง ไว้ผมจะเสนอแนวคิดให้พิจารณาก่อนเรื่องนี้เข้าประชุม ครม.ครับ

สำหรับมติการประชุมนั้น รัฐบาลได้มีการเจรจากับโรงกลั่นน้ำมันและโรงแยกก๊าซทั้งหมดที่มีกำไรเพิ่มขึ้นในช่วงที่ราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้น มาช่วยเหลือค่าน้ำมันประชาชนโดยส่งเงินเข้าสู่กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง และลดราคาน้ำมันเบนซิน เป็นเงินรวมทั้งหมดประมาณ 7,500 – 8,000 ล้านบาทต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือน ก.ค. – ก.ย.2565

1.กำไรจากการกลั่นน้ำมันดีเซล เดือนละประมาณ 5,000-6,000 ล้านบาท 

2.กำไรจากการกลั่นน้ำมันเบนซินจะเก็บจากโรงกลั่นเดือนละ 1,000 ล้านบาท (นำไปชดเชยลดให้กับผู้ใช้ราคาเบนซิน 1 บาทต่อลิตร)

3.เก็บจากกำไรของโรงแยกก๊าซ เดือนละประมาณ 1,500 ล้านบาท