สุดยอด "เยาวชน" สานต่อ ขนมมัรกู ขนมท้องถิ่นโบราณ เพื่อทุกคนจะได้ชิมของอร่อย

วันที่ 16 มิ.ย.65 เป็นเรื่องน่ายินดีที่ปัจจุบัน กลุ่มเยาวชนให้ความสนใจในเรื่องการอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่น โดยเฉพาะวัฒนธรรมด้านอาหาร ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแต่ละท้องที่ มาแล้วต้องลองชิม เช่น น้อง ๆ เยาวชน ต.บ้านควน อ.เมือง จ.สตูล เข้าร่วมในโครงการ มัรกูพื้นถิ่นบ้านควน ที่ศูนย์เด็กเล็ก ตำบลบ้านควน โดยมีกลุ่มเยาวชน อายุระหว่าง 15-18 ปี เข้าร่วมกิจกรรม 40 คน 

                   
สำหรับขนมมัรกู เป็นขนมโบราณของท้องถิ่น ต.บ้านควน อ.เมือง จ.สตูล ซึ่งกลุ่มเยาวชนสภาเด็กฯ เล็งเห็นว่า ขนมชนิดนี้เริ่มมีคนรู้จักน้อยลง จะมีให้กินเฉพาะช่วงเทศกาลสำคัญของทางศาสนา ปีละ 2 ครั้งเท่านั้น จึงได้ไปเรียนรู้จากปราชญ์ชาวบ้าน กระทั่งสามารถทำขนมชนิดนี้ได้ และนำมาถ่ายทอดสู่น้องๆ เยาวชน เพื่อร่วมกันสืบสานขนมมัรกูของชุมชนนี้ต่อไป 

 

 

 

น.ส.นริสรา ประธานสภาเด็กและเยาวชน ตำบลบ้านควน บอกว่า ตำบลบ้านควนนั้นมีประเพณีวัฒนธรรม ทางด้านภาษา วัฒนธรมและการแต่งกายที่โดดเด่น สภาเด็กฯจึงอยากส่งเสริมให้เยาวชนในพื้นที่ได้เรียนรู้เผยแพร่ ของดีของชุมชน โดยฝึกหัดทำขนมมัรกูขึ้น เพื่อให้เห็นความสำคัญของถิ่นฐานบ้านเกิด 

 

ซึ่งก่อนที่จะมาให้ความสนใจขนมมัรกูนั้น เราได้ออกสำรวจว่าขนมพื้นบ้านโบราณของตำบลบ้านควน มีอะไรบ้าง จนกระทั่งเป็นขนมมัรกูที่คนรู้จักน้อยลงมาก จึงนำขนมชนิดนี้มาเผยแพร่ให้เป็นที่รู้จัก 

 

ขนมมัรกูเดิมเป็นขนมจากมาเลเซีย ซึ่งชาวสตูลกับมาเลเซียเป็นบ้านพี่เมืองน้อง ที่ไปมาหาสู่กันจนมีวัฒนธรรมที่คล้ายคลึงกัน ขนมมัรกูถูกดัดแปลงเพื่อให้ถูกลิ้นคนไทย ลักษณะคล้ายกับโรตีแต่มีเครื่องแกงผสมไปด้วย จนบางคนเรียกว่าโรตีกรอบทรงเครื่อง และกลายเป็นขนมท้องถิ่นของตำบลบ้านควนสืบต่อกันมา  

 

 

 

ส่วนผสมประกอบด้วยแป้งสาลี  พริกแห้ง หอม เกลือ ใบหมุย ไข่ไก่ โดยนำพริกแห้ง หอมเกลือ ตำให้ละเอียด จากนั้นใส่ไข่ตีให้เข้ากันกับเครื่องแกง นำส่วนผสมทั้งหมดผสมนวดเข้ากันกับแป้งโดยใส่ใบหมุยผสมไประหว่างนวด จากนั้นนวดให้เข้ากันและพักแป้งประมาณครึ่งชั่วโมง เมื่อพักแป้งได้ที่แล้วนำแป้งมาปั้นเป็นรูปวงกลมและแช่ไว้ในน้ำมันประมาณ 2 ชั่วโมง แล้วนำแป้งมาแผ่ให้เป็นแผ่นบางๆ ตัดเป็นชิ้นเล็กๆนำไปทอด  

 

ส่วนน้ำมันสำหรับทอดนั้นก่อนนำแป้งลงไปทอด ให้นำใบหมุยลงไปทอดให้กรอบ ซึ่งจะมีความหอมของใบหมุยกลิ่นเหมือนเครื่องเทศ เมื่อนำแป้งลงไปทอดให้กรอบ ใช้ไฟปานกลาง เมื่อสุกขนมจะมีรสชาติกลมกล่อม รสเค็มและเผ็ดนิดๆ แต่หอมกลิ่นสมุนไพร รับประทานเพลิน

 

สำหรับเยาวชนที่มาฝึกทำขนม นอกจากได้ทำขนมชนิดเป็นแล้ว ยังได้พบปะแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเพื่อนๆ หลังจากที่ไม่ได้ทำกิจกรรมร่วมกันมานานเกือบ 2 ปี เพราะอยู่ในช่วงสถานการณ์โควิด-19

 

 

คอดีเย๊าะ เงินเจริญ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.สตูล