ปชป.สงสัย ทำไม "ฝ่ายค้าน" ไม่อภิปราย เรื่อง "น้ำมันแพง"
ส.ส.ปชป. สงสัย ทำไม "ฝ่ายค้าน" ไม่อภิปรายรัฐมนตรี "พลังงาน" ทั้งที่ ปัญหา "น้ำมันแพง" กำลังทำให้ประชาชนเดือดร้อน
อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ รู้สึกผิดหวังกับฝ่ายค้านที่ไม่มีชื่อนายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน อยู่ในรายชื่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจทั้งที่ทราบกันอยู่ทั่วไปว่าประชาชนเดือดร้อนกับการบริหารจัดการเรื่องราคาน้ำมันเชื้อเพลิง และการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งส่งผลกระทบวงกว้างกับประชาชน ทำให้ญัตติการอภิปรายของฝ่ายค้านเบามาก ราคาเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น และการขาดการบริหารที่ดีของรัฐบาล ทำให้ปัจจุบันประชาชนได้รับความเดือดร้อนมาก จากการไร้ประสิทธิภาพการบริหารจัดการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
“ญัตติของฝ่ายค้านไม่น่าเชื่อถือ มีน้ำหนักน้อยลงกว่าเยอะ จึงอยากให้ฝ่ายค้านทบทวนญัตติใหม่ เพราะประชาชนคาดหวังว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะช่วยประชาชนในเรื่องของราคาน้ำมันเชื้อเพลิงได้มาก หากฝ่ายค้านไม่มีข้อมูลให้มาเอาที่ผม ผมพร้อมสนับสนุนข้อมูลให้”
อัครเดชเชื่อว่าประชาชนคาดหวังว่าจะมีชื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานอยู่ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจในคร้งนี้
เพราะจากญัตติที่ฝ่ายค้านกล่าวหารัฐมนตรีคนอื่นล้วนมีข้อหาการไร้ประสิทธิภาพและบริหารล้มเหลว ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานถือว่ายิ่งกว่าล้มเหลวด้วยซ้ำ เพราะมีหน้าที่กำกับหน่วยงานต่างๆ เช่น สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง และบริษัท ปตท จำกัด (มหาชน)
ชลน่าน ศรีแก้ว อธิบายสาเหตุที่ไม่มีชื่อรมว.พลังงานในการอภิปรายคราวนี้ ว่าตอนเเรกมีชื่อรัฐมนตรีหลายคนเเละรวมถึงรมว.พลังงานด้วยเเต่ต้องให้น้ำหนักกับนายกรัฐมนตรีเเละครม.รวม11คน เเม้ไม่มีชื่อรมว.พลังงานอยู่ด้วยนั้น แต่การอภิปรายครั้งนี้ต้องเด็ดหัวเเละสอยนั่งร้าน ญัตติความบกพร่องของรมว.พลังงานนั้น จะถูกอภิปรายด้วยโดยอยู่ในญัตติเดียวกับนายกรัฐมนตรีคือบริหารงานผิดพลาดบกพร่อง เพราะนายกรัฐมนตรีคือประธานคณะกรรมการนโยบายพลังงานเเห่งชาติคือต้องเด็ดหัวในครั้งเดียว
ก่อนหน้านี้ กรณ์ จาติกวนิช หัวหน้าพรรคกล้า อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แนะรัฐบาลเข้าไปแทรกแซงการเก็บเงินจากกำไรส่วนต่างของราคาหน้าโรงกลั่น แบบชั่วคราวให้สอดคล้องกับราคาน้ำมันในตลาดโลก และไม่ให้กระทบกับโรงกลั่นน้ำมันมากเกินไป เรื่องนี้จำเป็นต้องทำเพื่อแก้ปัญหาน้ำมันแพง ซึ่งที่ผ่านมาได้คิดตัวเลขมาดีและครอบคลุมทุกอย่างแล้ว แต่อยู่ที่ว่ารัฐบาลจะทำหรือไม่เท่านั้น