"วีระชัย วีระเมธีกุล" ลาออกจาก "ส.ส.ปชป." อีกราย

เทพไท เสนพงศ์ โพสต์เฟสบุ๊ค แจ้งข่าวการลาออกจาก ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ของ วีระชัย วีระเมธีกุล มีเนื้อหาว่า ทราบข่าววีระชัย วีระเมธีกุล ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ได้ยื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ต่อ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรแล้ว รู้สึกตกใจและเสียดายการทำงานทางการเมืองของคุณวีระชัย ซึ่งถือว่าเป็นบุคลากรคนสำคัญของพรรคประชาธิปัตย์ นับตั้งแต่สมัยเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และมาเป็นส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อของพรรคประชาธิปัตย์

ส่วนตัวถือว่าเป็นคนกันเอง สนิทสนมกัน ทำงานด้วยกันมาโดยตลอด ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และเคยขอคำปรึกษาจากคุณวีระชัยอยู่บ่อยครั้ง ในประเด็นทางด้านการค้า และการต่างประเทศ ที่คุณวีระชัยมีความถนัดเป็นพิเศษ โดยเฉพาะความสัมพันธ์กับประเทศจีน จึงรู้สึกเสียดายที่พรรคประชาธิปัตย์ และสภาผู้แทนราษฎร ต้องขาดสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่มีคุณภาพคนหนึ่งไป และหวังว่าคุณวีระชัย คงจะใช้ความรู้ความสามารถที่มีอยู่ ช่วยเหลือพรรคประชาธิปัตย์ในฐานะสมาชิกพรรคคนหนึ่งต่อไป และขอแสดงความยินดีกับคุณไชยยศ จิรเมธากรที่ได้เลื่อนลำดับเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคประชาธิปัตย์ คนใหม่

วีระชัย วีระเมธีกุลเป็นอดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

วีระชัย เริ่มเข้าสู่เส้นทางการเมืองในปี พ.ศ. 2543 โดยการเข้าร่วมงานกับพรรคไทยรักไทย และได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จากการเลือกตั้งใน พ.ศ. 2544 มีโอกาสได้ทำงานในฝ่ายนิติบัญญัติ โดยในปี พ.ศ. 2544 จนถึง พ.ศ. 2546 เป็นรองประธานคนที่หนึ่ง คณะกรรมาธิการการเงินการคลัง การธนาคารและสถาบันการเงิน และเป็นรองประธานคนที่หนึ่ง คณะกรรมาธิการพัฒนาเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ยังได้รับความไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่งสำคัญหลายตำแหน่ง เช่น ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง และผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ แต่บทบาทการทำงานของ ดร.วีระชัย ในกระทรวงต่างๆ ที่เข้าไปดำรงตำแหน่งจะเป็นการทำงานเบื้องหลัง ทั้งการประสานงาน และการบริหารภายใน  เคยร่วมงานกับ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และ สุรเกียรติ์ เสถียรไทย ได้รับความไว้วางใจอย่างมาก

ในสมัยรัฐบาล พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ วีระชัย วีระเมธีกุล ได้รับความไว้วางใจดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เนื่องจากเคยทำงานในสมัยรัฐบาลไทยรักไทย ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีอย่างกว้างขวาง จนเป็นที่กล่าวกันว่าเพียงตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี แต่กลับมีอำนาจยิ่งใหญ่เหนือรัฐมนตรีหลายๆ คน