พิษปมร้อน " แบนทีมงานมาดามแป้ง" คนในวงการวอน"มาดามแป้ง"ฟังกระแสสังคม

ไพบูลย์ เลิศวิมลรัตน์ อดีตหัวหน้าผู้ฝึกสอนสโมสรฟุตบอลในลีกอาชีพ  อาทิ สมุทรสงคราม เอฟซี  , พิษณุโลก   เอฟซี   ปัจจุบันทำหน้าที่วิทยากรฝึกอบรม เพื่อพัฒนาบุคลากรสู่การเป็นโค้ชฟุตบอลอาชีพ  ให้สัมภาษณ์กับ " คมชัดลึก"ว่า   ปรากฏการณ์ในเรื่องของ " แบนทีมงานมาดามแป้ง"  ซึ่งเกิดขึ้นในสื่อสังคมออนไลน์  ภายหลังมีคลิปวีดีโอปรากฏ โดยเห็นถึงนักฟุตบอลทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน  23 ปี  ถูกพูดจา โดยผู้พูดอีกฝ่ายที่เป็นผู้ชาย ( ทีมงานมาดามแป้ง)   พูดจามีเนื้อหาไปในลักษณะของการพูดแบบสองแง่สามง่าม   แสดงออกทางเพศ  รวมทั้งมีการสัมผัสตามร่างกายของอีกฝ่าย  ซึ่งเกิดขึ้นในระหว่างการจัดงานเลี้ยงรับรอง ให้กับนักฟุตบอลทีมชาติไทย   จากผู้จัดงานคือ "ทีมงานมาดามแป้ง"   เรื่องที่เกิดขึ้นอยากให้  นวลพรรณ ล่ำซำ  ผู้จัดการฟุตบอลทีมชาติไทย รับรู้ถึงความรู้สึกของสังคม และไม่มองข้ามเรื่องนี้

ประเด็นที่ต้องพิจารณาก็คือ  ที่มาของ  " แบนทีมงานมาดามแป้ง" ผู้ที่ก่อเหตุคือคนที่มีความใกล้ชิด กับ ผู้จัดการฟุตบอลทีมชาติไทยโดยตรง ส่วนผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ คือนักฟุตบอลทีมชาติไทย   เรื่องแบบนี้อาจจะมองข้ามไปได้ หากคลิปวีดีโอไม่ได้ถูกเผยแพร่ออกไปสู่ภายนอก  แต่ในกรณีนี้ทุกอย่างตรงกันข้าม เนื่องจากสังคมรับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้น  อาจจะตีความได้หลายด้าน ว่าเป็นเพียงการหยอกล้อ  

แต่น้ำหนักที่ควรพิจารณาก็คือ สิ่งที่หยอกล้อมันคือการแสดงออกส่อเสียดไปทางเพศ  และผู้ที่ถูกอ้างถึง คือนักฟุตบอลทีมชาติไทย  ไม่ใช่คนทั่วไปที่สังคม จะไม่รู้สึกอะไร การแสดงออกในแบบใดก็ตาม ควรคำนึงถึงความเหมาะสม    วันนี้ภาพที่สังคมเห็นคือ นักฟุตบอลทีมชาติไทย  กลายเป็นเหยื่อของการแสดงออกทางเพศของอีกฝ่าย ไม่ว่าจะเต็มใจหรือไม่เต็มใจก็ตาม
 

ส่วนตัวเชื่อว่า ผู้ที่ก่อเหตุคงไม่ได้มองไปถึงผลที่จะตามมา  คงมองเพียงแค่สร้างความบันเทิงในงานเลี้ยงรับรอง ให้กับนักฟุตบอลทีมชาติไทยเท่านั้น  แต่เรื่องนี้หากมองในความละเอียดอ่อน หากมองในความเป็นทีมแล้ว การที่ คน ๆ คนหนึ่ง ถูกแสดงออกไปในทางเพศ  ก็จะเป็นเรื่องตลกของเพื่อนนักฟุตบอลด้วยกัน   ที่เพื่อนร่วมทีมถูกเพศที่สามแสดงออกแบบนั้น    กลายเป็นประเด็นให้แซวในหมู่นักกีฬาด้วยกัน

กลายเป็นว่าความสนิทสนม ระหว่างนักฟุตบอลทีมชาติไทย กับอีกฝ่ายกลายมาเป็นเรื่องที่สร้างบรรยากาศที่ไม่ดี ภายในทีม และจะลุกลามกลายเป็นประเด็น การมีเส้นสายในทีม  ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อทีมฟุตบอลที่ต้องการความสามัคคี  ประเด็นคนใกล้ตัวที่ก่อเหตุ  คือเรื่องละเอียดอ่อน ที่ผู้จัดการฟุตบอลทีมชาติไทย  "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ  ต้องรับรู้ว่า  เหมาะหรือไม่เหมาะ  เมื่อเกิดประเด็นที่สังคมวิพากษ์วิจารณ์  จะรับฟังหรือปล่อยผ่านเลยไป    

สันติ ทรงเต๊ะ อดีตหัวหน้าผู้ฝึกสอน  สโมสรฟุตบอลอินเตอร์แบงค็อก ทีมฟุตบอลในลีกอาชีพ "ไทยลีก 3"   ให้สัมภาษณ์กับ  "คมชัดลึก"  ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ ปรากฏการณ์ "แบนทีมงานมาดามแป้ง"  จะเป็นบทเรียนไปถึงผู้ก่อเหตุโดยตรง      เพราะสิ่งที่กระทำลงไปนั้น  ผู้ที่ได้รับผลกระทบตามมา ทั้งทางตรงและทางอ้อม ก็คือ "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ  ผู้จัดการฟุตบอลทีมชาติไทย   เพราะกลายเป็นคำถามตามมาว่า เลือกใช้คนอย่างไร  ในการเข้ามาทำงานที่เป็นความรับผิดชอบ  เหตุการณ์เรื่องนี้จะไม่ลุกลาม  หากเป็นการหยอกล้อหรือ แสดงออก กับนักฟุตบอลสโมสรการท่าเรือเอฟซี  ที่"มาดามแป้ง" ทำหน้าที่ประธานสโมสร  แต่กรณีนี้  เป็นนักฟุตบอลทีมชาติไทย ที่มีนวลพรรณ ล่ำซำ  เป็นผู้จัดการทีม  ผลที่ตามมาจึงต่างกัน