ข่าว

"ชัชชาติ" ยันไม่ขัดนโยบาย "กัญชา" แต่ต้องดูแลคนกรุงเทพฯให้ปลอดภัย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ชัชชาติ" รอสำนักการแพทย์ ยืนยันสาเหตุการตายของผู้ป่วยที่ใช้ "กัญชา" ขณะที่อธิบดี "กรมอนามัย" แนะให้ดูราช "กิจจานุเบกษา" ใช้กัญชาทำอะไรได้บ้าง

ชัชชาติ  สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม.บอกถึงกรณีที่สำนักการแพทย์ กทม. รายงานผู้เสียชีวิต เป็นชายวัย 51ปี จากการเสพกัญชา เมื่อวานนี้ ว่า สาเหตุการเสียชีวิตคงต้องรอผลที่ชัดเจนจากสำนักการแพทย์อีกครั้งว่าเสียชีวิตจากโรคประจำตัวหรือสาเหตุใด เป็นการรายงานเพียงว่า มีการสูบกัญชาประกอบกับการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นส่งผลให้เสียชีวิต    และเนื่องจาก กทม. เป็นผู้ปฏิบัติ แต่ไม่ได้ขัดข้องกับนโยบายของรัฐบาล แต่ก็จะต้องเฝ้าระสัง โดยได้สั่งให้โรงพยาบาลสังกัดกรุงเทพมหานครคอยเฝ้าระวัง เพื่อรวบรวมข้อมูลส่งให้กระทรวงสาธารณสุข ในการรายงานปัญหาและข้อความระวัง เพื่อให้ได้เตรียมตัวรับมือ  ขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัด

 

"ชัชชาติ" ยันไม่ขัดนโยบาย "กัญชา" แต่ต้องดูแลคนกรุงเทพฯให้ปลอดภัย

 

แต่เนื่องจาก กทม.มีนโยบาย โรงเรียนปลอดกัญชา จึงได้ให้โรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร
เฝ้าระวังโรงเรียนในพื้นที่เป็นพิเศษ จะต้องดูแลอย่างเท่าเทียมในทุกโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะโรงเรียนประถม หาแนวทางให้ความรู้ครูกับนักเรียนเรื่องของผลดีผลเสียของกัญชา เฝ้าระวังเรื่องอาหารที่อาจจะมีส่วยผสมของกัญชาด้วย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการดูระเบียบในการออกคำสั่ง และได้แจ้งให้โรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานครเฝ้าระวังแล้ว ซึ่งได้เน้นย้ำให้ความรู้กับครูและผู้ที่เกี่ยวข้องก่อน

นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมนามัย ย้ำเตือนถึงประกาศ  กระทรวงสาธารณสุข เรื่อง กำหนดให้การกระทำให้เกิดกลิ่น หรือควันกัญชา กัญชง หรือพืชอื่นใด  เป็นเหตุรำคาญ พ.ศ. 2565 ซึ่งมีผลบังคับใช้วันนี้ โดยกรมอนามัยการนำกัญชาไปใช้ที่ไม่เหมาะสมส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ดังนี้

    
1) กระตุ้นให้เกิดอาการป่วยทางจิตรุนแรง โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงที่มีประวัติซึมเศร้า หรือป่วยด้วยโรคจิตเภทอยู่เดิม
 2) ควันกัญชา ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหอบหืด หลอดลมอักเสบ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง                
3) เด็กและทารกที่สัมผัสควันกัญชามือสอง อาจได้รับผลกระทบทางจิตประสาทเช่นเดียวกับผู้สูบ            4) มีผลการศึกษาระบุว่า กัญชาแบบพันลำ มีอัตราการปล่อย PM 2.5 เฉลี่ย 3.5 เท่าของบุหรี่แบบธรรมดา

​“ทั้งนี้ ประชาชนกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็ก ทารก สตรีมีครรภ์ ผู้ที่มีประวัติซึมเศร้า หรือป่วยด้วยโรคจิตเภท ให้หลีกเลี่ยงใช้ หรือสัมผัสควันกัญชา สำหรับสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ หรือสถานที่อื่นใด หลีกเลี่ยงส่งเสริมหรือจัดให้มีการรวมกลุ่ม เพื่อใช้กัญชาในทางที่ไม่เหมาะสม หรือเพื่อสันทนาการ ส่วนบุคลทั่วไป ให้เลี่ยงการใช้เพื่อสันทนาการเช่นเดียวกัน และหากบุคคลใดหรือสถานที่ใดก่อให้เกิดกลิ่นหรือควันกัญชา ซึ่งรบกวนผู้อยู่อาศัยใกล้เคียง ถือว่ากระทำการอันเป็นเหตุรำคาญตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข”

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ