ข่าว

ซูเปอร์มาร์เก็ตท้องถิ่น ริมฝั่ง "อ่าวคุ้งกระเบน"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

วันนี้ที่อ่าวคุ้งกระเบน ชาวประมงสามารถออกเรือไปจับสัตว์น้ำ ปูม้าและปลาทะเลหลากหลายชนิด โดยใช้เวลาสั้นลง ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น ปัจจุบันมีธนาคารปูม้าเกิดขึ้นหลายแห่งตลอดแนวชายฝั่งเรียกได้ว่า "อ่าวคุ้งกระเบน" วันนี้มีซูเปอร์มาร์เก็ต ท้องถิ่นเป็นของตนเอง

นางสาวมนทกานติ ท้ามติ้น  ผอ.ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.จันทบุรี กล่าวว่า วันนี้ที่ "อ่าวคุ้งกระเบน" ชาวประมงสามารถออกเรือไปจับสัตว์น้ำ เช่น ปูม้าและปลาทะเลหลากหลายชนิด โดยใช้เวลาสั้นลง ความถี่รอบของการออกทะเลมากขึ้น ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นความเป็นอยู่ของผู้คนที่อาศัยอยู่ในบริเวณรอบ "อ่าวคุ้งกระเบน" จึงดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดทุกคนมีความพึงพอใจอย่างมาก

      ผอ.ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนฯ

 

ที่ผ่านมาในแต่ละปี ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริได้ปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำทั้งเพื่อการอนุรักษ์ และการเพิ่มทรัพยากรสัตว์น้ำในท้องทะเลที่หลายชนิดพันธุ์ เช่น กุ้งกุลาดำ กุ้งแชบ๊วย ปลากะพงขาว และปูม้ารวมแล้วกว่า 20 ล้านตัว ไม่นับรวมหอยชักตีน และหอยท้องถิ่นที่ชาวประมงสามารถเก็บจากชายฝั่งส่งจำหน่ายในท้องตลาดได้ทุกวัน

       ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนฯ

 

ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน ฯ ยังเปิดเผยเพิ่มเติมถึงที่มาของความสมบูรณ์บริเวณชายฝั่งตลอดแนวจังหวัดจันทบุรีและจังหวัดใกล้เคียงว่า ตั้งแต่ปี 2528  ถึงปัจจุบันเป็นเวลาเกือบ 40 ปีที่มีการศึกษาพัฒนาภายใต้แนวทาง จากขุนเขา สู่ท้องทะเล เริ่มจากการฟื้นฟูสภาพของป่าชายเลนที่มีอยู่ประมาณ 1 หมื่นกว่าไร่และปลูกเพิ่มอีก 1,100 ไร่ ทำให้ป่าชายเลนหวนกลับมาสมบูรณ์ดังเดิม เกิดความสมดุลของระบบนิเวศ  ต่อมามีการสร้างฝายชะลอน้ำและกักเก็บน้ำสำหรับพื้นที่เกษตรกรรมจากเดิมที่ขาดแคลนน้ำ ปัจจุบันสามารถเพาะปลูกพืชได้หลากหลายชนิด ทั้งพืชล้มลุกและไม้ยืนต้น  

      บริเวณอ่าวคุ้งกระเบน ฯ

 

ทางศูนย์ ฯได้ร่วมกับชาวประมงพื้นบ้าน ส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่ง สร้างแหล่งที่อยู่อาศัยให้แก่พ่อแม่พันธุ์สัตว์น้ำที่มาวางไข่และตัวอ่อนได้หากินหลบภัยเพื่อเจริญเติบโต ทำให้เกิดความสมบูรณ์ของระบบนิเวศชายฝั่งอย่างครบวงจร

     สัตว์น้ำจากอ่าวคุ้งกระเบน ฯ

 

พร้อมกันนี้ทางศูนย์ศึกษาการพัฒนา "อ่าวคุ้งกระเบน ฯ" ได้ร่วมกับชุมชนจัดตั้งธนาคารปูม้าขึ้นเพื่อนำลูกปูม้าปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ ทำให้มีปริมาณปูม้ามากเพียงพอต่อการจับขายของชาวประมงชายฝั่งจันทบุรีอย่างต่อเนื่อง และเป็นที่สนใจของกลุ่มชุมชนชายฝั่งอื่น ๆ ที่มาศึกษาเรียนรู้ และนำแนวทางดังกล่าวไปปฏิบัติใช้ในชุมชนของตนเอง  จนปัจจุบันมีธนาคารปูม้าเกิดขึ้นหลายแห่งตลอดแนวชายฝั่งอ่าวคุ้งกระเบนเรียกได้ว่า "อ่าวคุ้งกระเบน" ในวันนี้มี ซูเปอร์มาร์เก็ตท้องถิ่น เป็นของตนเอง 

 

ทางด้านนายบดินทร์ ดิษฐะ ชาวประมงชายฝั่งหมู่ที่ 6 ต.คลองขุด อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี กล่าวว่า ปัจจุบันทำประมงชายฝั่งเพียงอย่างเดียวมีรายได้เพียงพอเลี้ยงครอบครัวให้มีความสุขได้ ด้วยสัตว์น้ำชายฝั่งมีให้จับขายได้อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี ดีกว่าเมื่อก่อน  

เมื่อมีการอนุรักษ์ทุกอย่างก็จะดีขึ้น "อ่าวคุ้งกระเบน" เป็นแหล่งกำเนิดแพลงก์ตอน อาหารของลูกปู ลูกปลา ทำให้ปลากะพง ปลาเก๋า ปูม้า จะเจริญเติบโตก่อนออกไปหากินในท้องทะเลเมื่อเติบโตเต็มที่ ตอนนี้ออกทะเลไปวางอวนแค่ 2 ไมล์ทะเล วางเช้ากู้เย็นก็มีสัตว์น้ำมากเพียงพอไปขายได้แล้ว

 

ช่วงไม่มีมรสุมมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 5,000 ถึง 7,000 บาทต่อครั้ง ช่วงมรสุมรายได้ลดลงหน่อยเพราะทะเลคลื่นแรงสัตว์น้ำไม่ค่อยออกหากินจะมีรายได้โดยเฉลี่ยประมาณครั้งละ 2,000 บาท ที่สำคัญ ตั้งแต่มีศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริขึ้นมา สัตว์น้ำมีมากขึ้น การดำรงชีวิตของประมงชายฝั่งก็ดีขึ้น หากุ้ง หอย ปู ปลา ได้มากกว่ากันเยอะ” นายบดินทร์ ดิษฐะ กล่าว

 

อย่างไรก็ตามคำถามที่ว่าชายฝั่งทะเล "อ่าวคุ้งกระเบน"จะมีความอุดมสมบูรณ์อย่างยั่งยืนได้ยาวนานแค่ไหนนั้น นายประเวช จันทร์ศิริ หัวหน้าศูนย์ศึกษาและพัฒนาป่าไม้อ่าวคุ้งกระเบน ฯ ยืนยันว่า ป่าชายเลนอ่าวคุ้งกระเบนอดีตเคยเสื่อมโทรมมีพื้นที่สมบูรณ์เพียง 610ไร่ ปัจจุบันเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 1,300 ไร่ซึ่งเกิดจากความร่วมมือของชุมชนในพื้นที่และประชาชนทั่วไปที่ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐปลูกป่าทั้งป่าบกและป่าชายเลน จนปัจจุบัน อ่าวคุ้งกระเบนคือป่าชายเลนที่สมบูรณ์อันดับหนึ่งของจังหวัดจันทบุรี 

 

จากความสมบูรณ์ที่เกิดขึ้นทำให้มีสัตว์น้ำเศรษฐกิจ หลายชนิดจำนวนมาก เช่น ปลากระบอก ปลาเห็ดโคนปูม้า ปูทะเล หอยกระปุก หอยคราง และหอยปากเป็ดที่กำลังเป็นที่นิยมของผู้บริโภค นอกเหนือจากพะยูนที่ได้หวนกลับมาหากินบริเวณอ่าวคุ้งกระเบนอีกครั้งหนึ่งหลังจากห่างหายไปนาน เนื่องจากบริเวณอ่าวคุ้งกระเบนมีหญ้าทะเลเกิดขึ้นจำนวนมากซึ่งเป็นอาหารของพะยูน นายประเวช จันทร์ศิริ กล่าว

 

ทั้งนี้ในความสมบูรณ์ที่หวนกลับคืนมานั้น ล้วนเกิดจากทุกคนในพื้นที่ ที่มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรพื้นถิ่นของตัวเองให้มีความสมบูรณ์ ยังผลให้ทุกคนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ฉะนั้นโอกาสที่ทุกคนจะทำลายระบบนิเวศชายฝั่งเหมือนในอดีตก็คงจะไม่เกิดขึ้นตรงกันข้ามแนวทางการพัฒนามีแต่จะขยายวงกว้างออกไปยังพื้นที่อื่น ๆ เพิ่มมากขึ้นซึ่งนั่นคือ ความยั่งยืนในทรัพยากรของอ่าวไทยในวันข้างหน้า 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ