"ปวีณา" พาผู้ปกครองเด็ก ตามความคืบหน้าคดีคนขับรถตู้โรงเรียนกระทำอนาจาร
นาง "ปวีณา" หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณา หงส์กุล เพื่อเด็กและสตรี พาแม่ของเด็กหญิง 3 ราย ซึ่งมีอายุ 8 ขวบ , 9 ขวบ และ 11 ขวบ เดินทางมาติดตามความคืบหน้าคดีถูกคนขับรถตู้โรงเรียนกระทำอนาจาร ที่สน.ฉลองกรุง
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 14 มิ.ย.ที่ สน.ฉลองกรุง นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กและสตรี พาผู้ปกครอง ของเด็กหญิง 3 ราย ซึ่งมีอายุ 8 ขวบ,9ขวบ และ 11 ขวบ ตามลำดับ เดินทางมาติดตามความคืบหน้าคดีถูกคนขับรถตู้โรงเรียนกระทำอนาจาร ที่ สน.ฉลองกรุง
โดยมี พ.ต.อ.รัฐศักดิ์ รักสลาม รอง ผบก.น.3 ,พ.ต.อ.ขจร อบทอง ผกก.สน.ฉลองกรุง เข้าร่วมประชุมหารือในครั้งนี้ หลังคดีไม่คืบหน้ามากกว่า 1 ปี ซ้ำ ผู้ก่อเหตุยังได้รับการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน
สืบเนื่องจาก เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ก่อนปิดเทอมใหญ่ เด็กหญิง อายุ 11 ขวบ เรียนอยู่ชั้น ป.6 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ได้ขึ้นรถตู้รับจ้างที่มีนายวินัย ทองปลิว อายุ 58 ปี เป็นคนขับ เดินทางกลับจากโรงเรียน โดยนายวินัยได้มาส่งเด็กหญิงคนดังกล่าวเป็นคนสุดท้าย ขณะนั้นให้เด็กย้ายมานั่งที่เบาะหน้า ก่อนจะกระทำอนาจาร ซึ่งเมื่อถึงบ้านก็ได้แจ้งให้มารดาทราบ นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้ก่อเหตุยังกระทำการในลักษณะนี้กับเด็กอายุ 9 ขวบ และ 8 ขวบ อีกด้วย จากนั้นจึงได้มีการรวมตัวกันของผู้เสียหาย และพากันไปแจ้งความที่ สน.ฉลองกรุง เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2564
จากนั้นผ่านมา 1 ปี กระทั่งในวันที่ 7 มิถุนายน ที่ผ่านมา ตำรวจได้เรียกผู้ก่อเหตุมารับทราบข้อหา "กระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี โดยเด็กนั้นยินยอมหรือไม่ก็ตาม" ก่อนจะให้ประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน ซึ่งสร้างความไม่สบายใจให้กับผู้ปกครองที่ได้รับความเสียหาย และคดีนี้ตัวผู้ก่อเหตุได้ถูกดำเนินคดีเพียง 1 คดี ส่วนอีก 2 คดี ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด
นางปวีณา กล่าวว่า วันนี้เดินทางมาติดตามความคืบหน้าของคดี เนื่องจากผู้เสียหายไม่สบายใจที่ผู้ก่อเหตุได้รับการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน อีกทั้งยังกลับมาขับรถตู้รับส่งนักเรียนตามปกติ อีกทั้งในส่วนของคดีความ ตำรวจดำเนินคดีแล้วเสร็จเพียงแค่คดีเดียว ซ้ำยังอนุญาตให้ประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน ซึ่งทั้งที่ปกติจะให้อำนาจการประกันตัวอยู่ในชั้นศาล ส่วนอีก 2 คดี ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด จึงพาผู้เสียหายทั้งสามคนเข้าติดตามความคืบหน้าและขอความเป็นธรรมกับกรณีดังกล่าว
นางปวีณา กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุมีพฤติกรรมมักจะกระทำอนาจารกับเด็กสาว บางครั้งพาไปกระทำที่บ้าน โดยการหลอกล่อให้เล่นโทรศัพท์มือถือ หรือซื้อขนมให้กิน ก่อนลงมือกอดจูบลูบคลำ จนสร้างความหวาดกลัวให้เด็กเป็นอย่างมาก
ด้านแม่ของเด็กที่ถูกกระทำอนาจาร เปิดเผยว่า อยากขอความเป็นธรรมกับตำรวจ และสงสัยว่าเหตุใดจึงมีการทำคดีล่าช้า ทั้งนี้หลังเกิดเหตุลูกสาวก็ได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจ หวาดกลัวผู้ก่อเหตุทุกครั้งที่พบเห็น จึงได้พยายามปลอบและให้กำลังใจลูกสาวอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเมื่อติดต่อสอบถามไปยังโรงเรียนก็ได้รับคำตอบว่า รถตู้คันดังกล่าวเป็นรถตู้ส่วนบุคคลรับจ้าง ไม่เกี่ยวข้องกับทางโรงเรียน และรถตู้คันนี้ก็รับส่งเด็กนักเรียน 2 โรงเรียน ทั้งทราบว่าตัวผู้ก่อเหตุกระทำอนาจารเด็กมาแล้วหลายคน ซึ่งผู้ปกครองบางคนเมื่อทราบเรื่องก็ให้ลูกไม่ใช้บริการรถตู้รับ-ส่ง นอกจากนี้ยังพบผู้เสียหายเพิ่มอีก 5 ราย ที่ยังไม่ได้มาแจ้งความดำเนินคดี
แม่ของเด็กหญิงที่ถูกกระทำอนาจาร เปิดเผยอีกว่า หลังจากที่ผู้ก่อเหตุได้รับการประกันตัว เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ได้เข้าไปพูดคุยกับแม่ของเด็กอายุ 9 ขวบ เพื่อไกล่เกลี่ยเรื่องคดี แต่ทางแม่ไม่ยินยอม และยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ด้าน พ.ต.อ.รัฐศักดิ์ เปิดเผยว่า ทราบเรื่องจากนางปวีณา เมื่อวานนี้ และได้ลงมาตรวจสอบด้วยตัวเองแล้ว ว่าเหตุใดการดำเนินคดี อีก 2 คดีถึงมีความล่าช้า อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบพบว่า ทั้ง 3 คดี แบ่งเป็นคดีในพื้นที่ สน.ฉลองกรุง 2 คดี คือเด็กอายุ 11 ปี , และเด็กอายุ 8 ขวบ และ เด็กอายุ 9 ขวบ ของ สน.ลำผักชี 1 คดี โดยดำเนินคดีแล้ว คือ คดีของเด็กหญิงอายุ 11 ปี ของ สน.ฉลองกรุง ส่วนอีก 2 คดี ได้กำชับ และ ได้สั่งการให้ทางฝ่ายสืบสวนไปนำตัวนายวินัยมาดำเนินคดีที่เหลือ และให้พนักงานสอบสวน สน.ลำผักชีมาสอบปากคำแม่ของเด็กเพิ่มเติม และจะนำตัวผู้ก่อเหตุส่งฝากขังทันที
กระทั่งต่อมาฝ่ายสืบสวน สน.ฉลองกรุงนำกำลังเข้าไปเชิญตัวนายวินัย(ผู้ต้องหา) จากบ้านพักย่านเฉลิมกรุงซอย53 เพื่อมาสอบสวนและแจ้งข้อกล่าวหาก่อนนำตัวฝากขังยังศาลอาญามีนบุรี
เบื้องต้นตำรวจได้เพิกถอนการประกันตัว เนื่องจากผู้ก่อเหตุเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน พร้อมให้ฝ่ายสืบสวนไปนำตัวนายวินัยมาดำเนินคดีในข้อหา "กระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี โดยเด็กนั้นยินยอมหรือไม่ก็ตาม" เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป