ข่าว

"ป่าไม้" จับลูกน้องนักการเมืองบุก "เขตป่าสงวน" ป่าดงหมู ตัดไม้ทำถนน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ 1 (ม.ห.1) จับลูกน้องนักการเมืองบุก "เขตป่าสงวน" โค่นต้นไม้ ทำลายป่าเปิดทางทำถนน โดยยังไม่ได้รับอนุญาต

14 มิ.ย. 2565 นายนรินทร์ อินทรีย์  นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ   หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ 1 (ม.ห.1) พร้อมด้วยตัวแทนพรรคเสรีรวมไทย และเจ้าหน้าที่  ได้ทำการตรวจยึดเครื่องจักรกลขนาดใหญ่ ขณะเข้าทำการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าดงหมูทางทิศตะวันตก บ้านสามขา ตำบลคำป่าหลาย  อำเภอเมืองมุกดาหาร  จ.มุกดาหาร  ต่อเนื่องท้ายหมู่บ้านดอนม่วงพัฒนา ตำบลโพนทราย  อำเภอเมืองมุกดาหาร จ.มุกดาหาร พร้อมยึดของกลางเป็น รถแบคโฮ  จำนวน 1 คัน รถเกรด 1 คัน  รถบด จำนวน 1 คัน  ของ หจก.เอกชนแห่งหนึ่ง  ในขณะเข้ามาทำถนนในเขตป่าสงวนแห่งชาติ   ซึ่งยังไม่ได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้ 

 

จากการตรวจสอบทราบว่า การทำถนนดังกล่าวเป็นโครงขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งหนึ่งในจังหวัดมุกดาหาร ก่อสร้างถนนลูกรัง สายบ้านดอนม่วงพัฒนา ต.โพนทราย ถึง บ้านนาคำน้อย  ต.คำป่าหลาย  ระยะทาง 575 เมตร วงเงินก่อสร้าง 498,500 บาท  ผู้รับจ้าง หจก.แห่งหนึ่ง  โดยยังไม่ได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้   เจ้าหน้าที่ป่าไม้พร้อมพวก ได้เข้าตรวจสอบและทำการตรวจยึดภายหลังจากได้รับการร้องเรียนจากประชาชน  ส่วนผู้ต้องหา/คนงาน พากันวิ่งหลบหนีเข้าป่า

 

จากการลงพื้นที่ตรวจสอบเพิ่มเติมของ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ฯ  เข้าตรวจสอบพบว่ามีการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ ป่าดงหมู เพิ่มเติมออกไปอีกประมาณ  1,500   เมตร กว้างประมาณ 8 เมตร  เป็นลักษณะการเปิดทางใหม่ไม่ใช่การซ่อมแซมเส้นทางเดิม  มีการโค่นล้มต้นไม้อีกเป็นจำนวนมาก  เจ้าหน้าที่ จึงได้ทำการอายัด ตรวจยึด พร้อมแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่ สภ.คำป่าหลาย และนำไม้ของกลางมาไว้ที่ หน่วยป้องกันรักษาป่า ม.ห. 1  ต.คำป่าหลาย  อำเภอเมืองมุกดาหาร  จังหวัดมุกดาหาร

 

"ป่าไม้" จับลูกน้องนักการเมืองบุก "เขตป่าสงวน" ป่าดงหมู ตัดไม้ทำถนน

 

 

ซึ่งการเปิดทางใหม่พร้อมการโค่นล้มต้นไม้ในป่าสงวนแห่งชาติ  ป่าดงหมู  ไม่ทราบว่าเป็นของหน่วยงานไหน แต่บริเวณใกล้เคียงพบมีรถแบคโฮ  จำนวน 1 คัน  รถเกรด 1 คัน รถน้ำ 1 คัน รถบด 1 คัน ซึ่งที่เครื่องจักรกลติดป้ายชื่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งหนึ่งจอดอยู่   จึงเป็นที่แปลกใจว่ารถของ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งนี้ มาจอดอยู่ในป่าสงวนแห่งชาติ ป่าดงหมู ได้อย่างไร

 

 

"ป่าไม้" จับลูกน้องนักการเมืองบุก "เขตป่าสงวน" ป่าดงหมู ตัดไม้ทำถนน

 

 


ทั้งนี้ นายนรินทร์    เปิดเผยว่า  เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. ที่ผ่านมา  มีราษฎรในพื้นที่แจ้งมาว่า พบบุคคลเข้าไปบุกรุกป่าทำถนนลูกรัง ในพื้นที่บ้านสามขา เชื่อมต่อบ้านดอนม่วงพัฒนา จุดบ้านนาคำน้อย ขอให้ทางเจ้าหน้าที่ออกไปตรวจสอบด้วย และได้ประสานขอกำลังทหารลงพื้นที่ตรวจสอบ พบกลุ่มบุคคลกำลังทำถนนลูกรังอยู่ ซึ่งเป็นลูกชายของ หจก.ชื่อดังในจังหวัดมุกดาหาร พร้อมด้วยรถเกรด 1 คัน รถบดอัด 1 คัน รถแบ็คโฮ 1 คัน จึงได้เข้าไปสอบถาม ได้รับแจ้งว่าได้รับอนุญาตแล้ว พร้อมยื่นเอกสารให้ดู ซึ่งเป็นเพียงเอกสารที่เพิ่งยื่นเมื่อปีที่แล้ว เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัว พร้อมเครื่องจักร ส่ง สภ.คำป่าหลาย เพื่อดำเนินคดี  นอกจากเครื่องจักรแล้ว ยังมีไม้ 38 ต้น จำนวน 40 ท่อน ในที่เกิดเหตุ

 

 

 

"ป่าไม้" จับลูกน้องนักการเมืองบุก "เขตป่าสงวน" ป่าดงหมู ตัดไม้ทำถนน

 

 

 

ด้าน ร.ต.ต.สุเทียน ทองโสม  ตัวแทนพรรคเสรีรวมไทย ประจำจังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า  ได้รับการร้องเรียน จึงลงพื้นที่พร้อมด้วยป่าไม้ และเจ้าหน้าที่ทหาร ได้ตรวจยึดและอายัดรถที่ใช้ในการบุกรุกป่าเปิดทางทำถนนลูกรัง บ้านดอนม่วงพัฒนา ไปจนถึงบ้านนาคำน้อย ประมาณ 1,600 เมตร สำหรับข้อมูลเป็นโครงการของ อปท. ในจังหวัดมุกดาหาร ได้ว่าจ้างบริษัทเอกชน เข้ามาทำถนนลูกรังในพื้นที่เขตป่าสงวน ป่าดงหมู และพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในโครงการพระราชดำริ ฯ และรับทราบข้อมูลมาว่ามีนักการเมือง มีผู้ใหญ่ในจังหวัดมุกดาหาร ที่จะพยายามช่วยอำนวยความสะดวกให้ อปท. และผู้รับเหมา

 

 

 

ร.ต.ต.สุเทียน ทองโสม  

 

 

ร.ต.ต.สุเทียน กล่าวอีกว่า นอกจากนี้จะเข้าตรวจสอบรถของกลางว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับ อปท. หรือไม่ถ้าเกี่ยวข้องและมีพยานยืนยันชัดเจน จะนำเรื่องนี้เข้ากรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ อีกส่วนหนึ่งจะนำเข้ากรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎรด้วย  สำหรับเรื่องนี้เป็นการทำงานของหน่วยรัฐ ในฐานะตัวแทนของพี่น้องประชาชนจะไม่เข้าไปก้าวก่ายแทรกแซง หรือครอบงำการทำงานของเจ้าหน้าที่ แต่จะให้ข้อมูลข้อเท็จจริงทั้งหมดกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่ได้รวบรวมข้อมูล พยาน หลักฐานต่อกรรมาธิการต่อไป
     

 

ล่าสุด นายอนุชา พึ่งบุญศรี ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดมุกดาหาร นายพรภิรมณ์ อุระแสง ผู้อำนวยศูนย์ป่าไม้มุกดาหาร ตัวแทนสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดมุกดาหาร และตัวแทนองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร  ลงพื้นที่ตรวจสอบ กรณี มีการกล่าวหาว่ามีโครงการก่อสร้างถนนลูกรังขององค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าดงหมู อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามที่ได้รับแจ้งจากศูนย์ป้องกันและปราบปรมการทุจริต (Corruption Deeterrence Center : CDC) 

 

 

นายอนุชา กล่าว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2564 องค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร ได้มีคำขอใช้พื้นที่ของส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ตามมาตรา 13/1 แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดงหมู ตำบลโพนทราย ตำบลคำป่าหลาย อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร เนื้อที่ ๑๓ ไร่ ๓ งาน เพื่อดำเนินการตามโครงการก่อสร้างถนนลูกรังสายทางบ้านดอนม่วงพัฒนา ตำบลโพนทราย – บ้านนาคำน้อย ตำบลคำป่าหลาย อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร (ช่วงที่ 5) ระยะทาง 6,800 เมตร 
         

 

ต่อมา ในปี พ.ศ. 2565 องค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร ได้มีดำเนินการก่อสร้างถนนลูกรังในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าดงหมู สายบ้านดอนม่วงพัฒนา ตำบลโพนทราย – บ้านนาคำน้อย ตำบลคำป่าหลาย อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร ระยะทาง 575 เมตร งบประมาณ 498,500 บาท ซึ่งดำเนินการโดยห้างหุ้นส่วนจำกัดแห่งหนึ่ง และ ดำเนินโครงการก่อสร้างถนนลูกรัง ซึ่งดำเนินการโดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร โดยข้อเท็จจริงปรากฏว่าการขออนุญาตใช้พื้นที่ของป่าสงวนแห่ชาติป่าดงหมูขององค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร ยังอยู่เพียงขั้นตอนการยื่นคำขออนุญาตเท่านั้น และการดำเนินการดังกล่าวยังไม่ได้รับอนุญาตจากจากกรมป่าไม้ จากการตรวจสอบพบว่าการดำเนินการทั้ง 2 โครงการ ได้มีการตัดต้นไม้ตลอดเส้นทางที่อยู่ในแนวเขตการก่อสร้างก่อสร้างถนนลูกรัง โดยไม่ได้รับการอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ การดำเนินการดังกล่าวจึงเป็นการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 14 พระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 มาตรา 54 มาตรา 11 มาตรา 69 ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการการตรวจยึดเครื่องจักรที่ใช้ในการกระทำความผิดและไม้ที่ถูกตัดไว้เป็นของกลาง โดยได้มีการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรคำป่าหลายแล้ว ซึ่งสำนักงาน ป.ป.ช. จังหวัดมุกดาหาร จะได้รวบรวมรวมพยานหลักฐานทั้งหมดไปตรวจสอบ และหากพบว่าการกระทำดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่ของรัฐ สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร ร่วมกระทำความผิดด้วย ก็จะดำเนินการตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561  ต่อไป
                                                    


อนุศักดิ์ - เสาวภา  แสนวิเศษ   ผู้สื่อข่าว จังหวัดมุกดาหาร  
 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ