"รมว.แรงงาน" สั่ง 5 เสือ เร่งเยียวยาครอบครัวเหยื่อถูกฆาตกรรมที่ไต้หวัน

หลังจากเกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญ 2 สามีภรรยา ถูกฆาตกรรมพร้อมกับลูกฝาแฝดในครรภ์ เสียชีวิตอยู่ท้ายรถ BMW ในลานจอดรถหน้าสถานีรถไฟความเร็วสูงเถาหยวน ไต้หวัน โดยผู้ก่อเหตุมีรายงานว่า เดินทางหลบหนีเข้ามาในประเทศไทยแล้ว แต่ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างติดตามตัว 
 

นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า จากกรณีที่สองสามีภรรยาชาวไทยถูกฆาตกรรมในไต้หวันเมื่อวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมานั้น ทราบชื่อผู้เสียชีวิต คือ นายประเสริฐ โนราษ อายุ 32 ปี ภูมิลำเนาเป็นชาวจังหวัดอุบลราชธานี และ น.ส.พจนีย์ แช่หลี อายุ 36 ปี ภูมิลำเนาเป็นชาวจังหวัดเชียงใหม่

ในส่วนของกระทรวงแรงงานได้ให้กรมการจัดหางานตรวจสอบ พบว่า นายประเสริฐเคยไปทำงานผ่านบริษัทจัดหางานแห่งหนึ่งเมื่อปี 2560 และได้สมัครเป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ เมื่อหมดสัญญาจ้างจึงเดินทางกลับมายังประเทศไทย แต่ต่อมาได้กลับเข้าไปใหม่ที่ไต้หวันและได้แต่งงานอยู่กินกับ น.ส.พจนีย์ โดยมีบัตรถิ่นที่อยู่ถาวร ปัจจุบันทั้งคู่จึงไม่มีสถานะแรงงานไทย และกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศก็ไม่ได้คุ้มครองแล้ว 

นายบุญชอบ กล่าวว่า ทันทีที่ทราบข่าวดังกล่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งท่านกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ได้มีความห่วงและแสดงความเสียใจกับครอบครัวคนไทยที่เสียชีวิต จึงได้ให้กระทรวงแรงงานตรวจสอบสถานะและดูแลช่วยเหลือสิทธิประโยชน์ที่เกี่ยวข้องตามกฎหมาย ซึ่งนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้ขานรับข้อสั่งการดังกล่าว พร้อมสั่งการให้ 5 เสือกระทรวงแรงงานจังหวัดอุบลราชธานี นำโดยนางวิมุตติยา อาวุธเทวินทร์ แรงงานจังหวัดอุบลราชธานี ลงพื้นที่ไปเยี่ยมบ้าน เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจแก่ญาติผู้เสียชีวิตในเบื้องต้นแล้ว นอกจากนี้ สำนักงานประกันสังคมยังได้ตรวจสอบสถานะความเป็นผู้ประกันตนของนายประเสริฐ พบว่า โดยก่อนเดินทางไปทำงานไต้หวัน เคยเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 และผู้ประกันตนมาตรา 40 มาก่อน รวมสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับจากกองทุนประกันสังคม 15,496.42 บาท กระทรวงแรงงาน จะได้ให้สำนักงานประกันสังคมจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นภูมิลำเนาของผู้เสียชีวิตลงพื้นที่เพื่อนำเงินสิทธิประโยชน์ดังกล่าวไปมอบให้ทายาทโดยตรงต่อไป