ข่าว

คลัง ชี้ "คนละครึ่งเฟส 5" ไม่เหมาะช่วงเศรษฐกิจฟื้นตัว

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ชี้โครงการ "คนละครึ่งเฟส 5" ไม่เหมาะช่วงเศรษฐกิจฟื้นตัว เพราะสิ้นเปลืองงบเกินไป เตรียมออกมาตรการช่วยน้ำมันแพง

วันนี้ 13 มิถุนายน 2565 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เรื่องของเงินเฟ้อนั้นเกิดขึ้นทุกประเทศ บางประเทศเขาก็ไม่ให้ความช่วยเหลือ ปล่อยให้เป็นไปตามกลไก เพราะว่า ราคาของขึ้นไปแล้ว เมื่อดีมานด์และซัพพลายเพิ่มขึ้น ราคาสินค้าที่ปรับขึ้นไปก็จะลดลงเอง

 

 

“จะเห็นได้ว่า ขณะนี้เริ่มมีการกลับเข้ามาทำงานแล้ว แต่ว่าค่าจ้างได้เต็มไหม อันนี้ก็แล้วแต่ แต่ต้องยอมรับว่า เมื่อกลับมาทำงานรายได้ปกติ แต่ราคาของสินค้าขึ้น ความสามารถในการซื้อก็ลดน้อยลง เคยกิน 2 ชิ้น ก็เหลือ 2 ชิ้น แต่มันก็พออยู่ได้ ดีกว่าตอนล็อกดาวน์ แต่ตอนล็อกดาวน์รัฐบาลก็ช่วยออกมาตรการเยียวยาให้”

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวอีกว่า กระทรวงการคลังได้รับโจทย์จาก นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการพลังงาน ให้พิจารณามาตรการช่วยเหลือประชาชน โดยรูปแบบจะเป็นการช่วยเหลือเฉพาะกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากโควิด และผู้ได้รับผลกระทบจากราคาพลังงาน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างหารือแนวทางกับสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ซึ่งจะต้องได้ข้อสรุปภายในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนมิถุนายน

 

 

“ช่วงที่โดนโควิดกระทบ ก็มีผลต่อกำลังซื้อ แต่เรื่องน้ำมันรายได้ยังมี แต่กำลังในการเติมน้ำมันนั้นน้อยลง จึงอยากช่วยเหลือเฉพาะกลุ่มประชาชนฐานราก อาทิ วินมอเตอร์ไซค์ จะดูว่าจะสามารถช่วยเหลือต่อไปได้อย่างไรบ้าง เช่น เป็นการลดค่าใช้จ่าย แต่จะต้องเป็นวินมอเตอร์ไซค์ที่ขึ้นทะเบียนกับกรมขนส่งทางบก ดังนั้น มาตรการที่เหวี่ยงแหแบบทั่วไปก็คงลดน้อยลง”

ส่วน โครงการ "คนละครึ่งเฟส 5" ไม่ได้ดำเนินการด้วยงบประมาณรายจ่ายประจำปี แต่ใช้งบจากเงินพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) กู้เงิน ซึ่งการกู้เงินก็มีเหตุผลที่จะต้องกู้มาเพื่อช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด ซึ่งสามารถทำได้

 

 

อย่างไรก็ดี เมื่อเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวกลับมา ความจำเป็นในการออกมาตรการอาจจะลดน้อยลงไป และเมื่อจะออกโครงการคนละครึ่ง ก็ต้องออกมาตรการช่วยเหลือ ในกลุ่มบัตรคนจนด้วย ซึ่งใช้งบประมาณค่อนข้างมาก

 

 

“ความจำเป็นที่จะใช้มาตรการในช่วงที่เศรษฐกิจฟื้นกลับเข้ามา จะต้องเน้นทำให้ถูกฝาถูกตัวมากขึ้น เพราะทุกประเทศก็ต้องดูรายได้ของรัฐบาล จะใช้จ่ายเหมือนเดิมไม่ได้ ซึ่งพ.ร.ก.กู้เงินเพิ่มเติม 5 แสนล้านบาท มีวงเงินเหลืออยู่ประมาณ 4 หมื่นล้านบาท อาจจะไม่เพียงพอ เพราะการใช้งบประมาณในการออกมาตรการแต่ละครั้ง 3-5 หมื่นล้านบาท”

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ