วีระ จี้ "ป.ป.ช." ทวงคืนผืนป่า แม้จับ "สุนทร วิลาวัลย์" ไม่ได้

วีระ สมความคิด ประธานยุทธศาสตร์แผนงานต้านคอร์รัปชั่น พรรคเสรีรวมไทย ตั้งคำถามถึงเลขาธิการ ป.ป.ช. กรณีหากจับตัว สุนทร วิลาวัลย์ ผู้ต้องหาคดีรุกป่า มาส่งฟ้องศาลไม่ทันในวันจันทร์ที่ 13 มิถุนายน 2565 ด้วยการยื่นเรื่องถอดถอนนายสุนทรออกจากตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนว่า  คิดได้แค่นี้จริงๆหรือไม่  หลังออกมาระบุว่ากรณีนายสุนทร คดีจะหมดอายุความวันที่ 13 มิ.ย.นี้ หากยังไม่ได้ตัวส่งให้อัยการดำเนินคดีก่อนที่คดีหมดอายุความ ถือว่าคดีสิ้นสุด ทำอะไรต่อไปไม่ได้ เนื่องจากคดีนี้นี้มีอายุความ 20ปี นับจากวันที่กระทำผิดในปี 2545 แต่ ป.ป.ช. เพิ่งได้รับสำนวนคดีจากตำรวจมาปี 2563 และเร่งพิจารณามาโดยตลอด จนสรุปสำนวนชี้มูลความผิดได้

วีระ ตั้งคำถามว่า การบุกรุกที่ดินของคนในตระกูลวิลาวัลย์ กอ.รมน.มีข้อมูลหลักฐานอย่างละเอียดกว่า 30 แปลง ทั้งที่ป่าติดกับเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ที่บริเวณ ต.เนินหอม อ.เมือง อ.ประจันตคาม และอ.นาดี ทั้ง กอ.รมน. และ ป.ป.ช. ต่างก็รู้กันดีทั้งหมด แต่ทำไมจึงเอาผิดได้แค่ 3 แปลงเท่านั้น ที่เหลือทำไมจึงทำเป็นมองไม่เห็น

ที่สำคัญที่สุดของคดีนี้ ป.ป.ช. ต้องฟ้องคดีต่อศาลทั้งหมด และขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนโฉนดทุกแปลงที่ตระกูลวิลาวัลย์ ได้มาโดยออกทับที่ป่าในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และที่ป่าสงวนแห่งชาติ เพื่อนำที่ดินของรัฐทั้งหมดที่ถูกบุกรุก กลับมาเป็นสมบัติของชาติและประชาชนให้ได้

นอกจาก กนกวรรณ แล้ว  ส.ส.พรรคภูมิใจไทยอย่าง ศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ก็ถูกไต่สวนกรณีถือครองที่ดินของรัฐ (น.ส.2) ได้มาโดยชอบหรือไม่ เนื่องจากแจ้งในบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน แต่มีการกล่าวหาว่า มีสิทธิ์ถือครองที่ดินแปลงนี้หรือไม่ และที่ดินในส่วนนี้อาจรุกล้ำเข้าไปในป่าสงวนแห่งชาติหรือไม่

นอกจากนี้ข้อมูลในการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของ ส.ส.ในช่วงเข้ารับตำแหน่งตั้งแต่ปี 2562 ยังมีส.ส.จากทุกพรรคการเมือง แจ้งถือครองเอกสารสิทธิ์ ภ.บ.ท.5 เอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก. รวมถึงที่ดิน น.ส.2 และที่ดินว่างเปล่าอื่น ๆรวมแล้วกว่าสามสิบราย