ข่าว

"ใบหน้าอัมพาตครึ่งซีก" โรคที่ จัสติน บีเบอร์ กำลังเผชิญ เป็นแล้วหายได้มั้ย

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รู้จักภาวะ "ใบหน้าอัมพาตครึ่งซีก" โรคที่ จัสติน บีเบอร์ กำลังเผชิญ มีสาเหตุจากอะไร เป็นแล้วหายได้หรือไม่ อย่าชะล้าใจมีโอกาสเป็นได้ทุกคน

จากกรณีที่ จัสติน บีเบอร์ นักร้องและนักแต่งเพลงชื่อดัง วัย 28 ปี ลงคลิปผ่านอินสตาแกรม เพื่ออธิบายเหตุที่ต้องเลื่อนกำหนดการแสดงคอนเสิร์ตทัวร์ออกไป เนื่องจากได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น แรมเซย์ ฮันต์ ซินโดรม (Ramsay Hunt Syndrome) ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนจากงูสวัด ส่งผลให้ "ใบหน้าอัมพาตครึ่งซีก"  โดยภาวะ แรมเซย์ ฮันต์ ซินโดรม ภาวะแทรกซ้อนของ งูสวัด เกิดจากการที่เชื้อไวรัสเข้าไปจู่โจมเส้นประสาทใบหน้าบริเวณใกล้หูข้างหนึ่ง ทำให้เกิดอาการต่าง ๆ ส่งผลให้ใบหน้า "ใบหน้าอัมพาตครึ่งซีก" และสูญเสียการได้ยินในระยะสั้น

"ใบหน้าอัมพาตครึ่งซีก" โรคที่ จัสติน บีเบอร์ กำลังเผชิญ เป็นแล้วหายได้มั้ย
 

ล่าสุด นพ. สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า โรคเส้นประสาทใบหน้าหรือเส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 อักเสบ หรือเบลล์พัลซี ( Bell’s palsy ) คือ ภาวะที่กล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือเกิดอัมพาตชั่วขณะ สามารถพบได้ทุกช่วงอายุ โดยมีสาเหตุมาจากเส้นประสาทบนใบหน้าที่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อใบหน้าเกิดความผิดปกติ ส่งผลให้ "ใบหน้าอัมพาตครึ่งซีก" มักจะเป็นข้างใดข้างหนึ่ง หลับตาไม่สนิท มุมปากขยับได้ลดลง ดูดน้ำจากหลอดไม่ได้ มีน้ำรั่วที่มุมปาก หรือมีอาการเลิกคิ้วไม่ได้ การรับรสที่ปลายลิ้นผิดปกติ น้ำลายแห้ง น้ำตาแห้ง การได้ยินของหูข้างที่มีอาการลดลง หรือได้ยินเสียงก้อง และ มีอาการปวดบริเวณหลังใบหูร่วมด้วย บางรายเกิดจากการติดเชื้อไวรัส เช่น โรคอีสุกอีไส, เชื้อเริม, งูสวัด ที่แฝงอยู่ในปมประสาท หากร่างกายมีภูมิต้านทานต่ำลงจะทำให้เกิดโรคนี้ได้ ถือเป็นปัญหาสุขภาพ ที่เกิดขึ้นทันที และมักจะเกิดขึ้นภายใน 48 ชั่วโมง 
 

ด้าน นพ. ธนินทร์ เวชชาภินันท์ ผู้อำนวยการสถาบันประสาทวิทยา กล่าวเพิ่มเติมว่า โรค "ใบหน้าอัมพาตครึ่งซีก" หรือ แรมเซย์ ฮันต์ ซินโดรม  เป็นโรคที่สามารถค่อยๆฟื้นตัวและดีขึ้นเองได้ โดยแพทย์จะวินิจฉัยจากการซักประวัติ การตรวจร่างกายเป็นสำคัญ ร่วมกับการตรวจการทำงานของเส้นประสาทและกล้ามเนื้อ (NCS, EMG) 

สำหรับการรักษาโรคใบหน้าเบี้ยวครึ่งซีก หรือ "ใบหน้าอัมพาตครึ่งซีก"  คือ รักษาตามสาเหตุที่ทำให้โรค เช่น ให้ยาฆ่าเชื้อไวรัสกรณีที่มีการติดเชื้อไวรัสกลุ่มเริม หรืองูสวัดร่วมด้วย, การให้ยาสเตียรอยด์เพื่อลดอาการอักเสบในรายที่ไม่มีการติดเชื้อ ร่วมกับการทำกายภาพบำบัดใบหน้า เช่น การบริหารกล้ามเนื้อใบหน้า, การกระตุ้นเส้นประสาทด้วยกระแสไฟฟ้า หรือนวดใบหน้า ช่วยลดภาวะกล้ามเนื้อตึงเกร็ง และการผ่าตัดในผู้ป่วยบางราย ในผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้ควรปิดตาข้างที่มีอาการ หรือ ใส่แว่นกันแดด ร่วมกับใช้น้ำตาเทียม และปิดตาเวลานอนเพื่อลดอาการเคืองตา ตาแดง หรือมีแผลที่แก้วตา อย่างไรก็ตามเมื่อผู้ป่วยมีอาการใบหน้าเบี้ยวครึ่งซีก ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุของอาการ เพราะผลของการรักษาจะได้ผลดีถ้าได้เริ่มรักษาได้เร็ว

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ