รองโฆษก ตร. ขอผู้ชุมนุม อย่าฝ่าฝืนกฎหมาย เฝ้าระวังบ้านพัก "นายกฯ"
รองโฆษก ตร. ขอ "ผู้ชุมนุม" อย่าฝ่าฝืนกฎหมาย เฝ้าระวังสถานที่ราชการ-บ้านพัก"นายกฯ" เตรียมกำลังปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ พร้อมบังคับใช้กฎหมายหากสุ่มเสี่ยงเพราะยังอยู่ในประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
15.20น. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ บอกถึงภาพรวมการชุมนุม ของกลุ่มที่ใช้ชื่อว่า ‘ราษฎรไล่ตู่ คนแดงปฏิวัติ’ และใช้ชื่อกิจกรรมว่า ‘เดินไล่ตู่’ ว่า ที่ผ่านมาการชุมนุมไม่ได้ห่างหายไป มีทั้งกลุ่มที่เห็นต่างทางการเมือง และกลุ่มเรียกร้องปัญหาทางเศรษฐกิจ และวันนี้มีการรวมกลุ่มที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และจะคลื่อนไปอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จึงอยากฝากไปยังอยู่ชุมนุมว่า วันนี้ยังอยู่ภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตำรวจยังมีความจำเป็นที่ต้องใช้กฎหมายนี้อยู่ เพราะยังอยู่ในช่วงของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค
และในวันนี้ ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบยังเฝ้าจับตาสถานการณ์อยู่ ซึ่งตำรวจไม่อยากบังคับใช้กฎหมายหรือจับกุม จึงขอให้ผู้ชุมนุมไปดูว่ากฎหมาย สามารถให้ทำอะไรได้ที่ไม่สุ่มเสี่ยงหรือฝ่าฝืนกฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
ส่วนสถานที่ราชการสำคัญในพื้นที่นี่ ทั้งใกล้ทั้งสถานที่ราชการ วัด และสถานที่ต้องห้าม ทางตำรวจจะมีการประกาศแจ้งเตือนเป็นระยะ หากพบว่าสุ่มเสี่ยงต่อการกระทำการผิดกฎหมาย เพื่อเป็นการห้ามปราม
ส่วนที่ทีกระแสข่าวว่า ปล่ยทางของสถานที่จัดกิจกรรมคืออนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งอาจจะใกล้กับบ้านพักนายกรัฐมนตรีนั้น ก็เป็นการรายงานทางการข่าว ซึ่งตำรวจก็คงต้องเฝ้าระวังเช่นกัน
ทั้งนี้ การที่กลุ่มทะลุแก๊ซประกาศจัดกิจกรรมที่ดินแดงด้วยนั้น ก็ไม่ได้มีความกังวลเรื่องใดเป็นพิเศษ และหากมีการรวมตัวกันตำรวจ ก็ต้องใช้ทั้งหลักนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ในการดำเนินการ
โดยยืนยันว่า มีการวางกำลังเพียงพอ และปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ และขอให้กลุ่มผู้ชุมนุม มองความเป็นอยู่อย่างปกติสุขของประชาชนที่อาศัยและสัญจรในพื้นที่ด้วย
พ.ต.อ.กฤษณะ ยังบอกอีกว่า ช่วงที่ผ่านมา มีการจัดกิจกรรมชุมนุมทางการเมืองเกือบ 4,000 ครั้งทั่วประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานครมากกว่า 50% เรามีการดำเนินคดีกับทั้งแกนนำและผู้ชุมนุมประมาณ 1,300 คดี เป็นคดีในกองบัญชารตำรวจนครบาลกว่า 800 คดี