"พ่อตา" ปะทะอดีต "เขย" เจอรุม สู้ไม่ได้คว้ามีดแทงสาหัส

10 มิ.ย. 2565 เวลาประมาณ 00.00 น. เกิดเหตุทะเลาะวิวาท และมีผู้ได้รับบาดเจ็บถูกมีดแทงอาการสาหัส บริเวณซอยข้างโรงแรมเอื้องคำ บ้านสวนหอม ตำบลผาสิงห์ อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน เจ้าหน้าตำรวจพร้อมชุดกู้ชีพกู้ภัยเร่งเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ในที่เกิดเหตุพบ นายสมพร สุขทั่วญาติ  ผู้ใหญ่บ้านสวนหอม รักษาการแทนกำนันตำบลผาสิงห์ เจ้าหน้าที่อาสาชุดเหยี่ยวฟ้า ทีมกู้ชีพสมาคมกู้ชีพกู้ภัยนครน่านรวมใจ และกู้ชีพกู้ภัยน่าน กำลังช่วยกันปฐมพยาบาล นายบี (นามสมมุติ)  ผู้ได้รับบาดเจ็บ ถูกแทงใต้ราวนมข้างซ้าย มีอาการซึม กู้ชีพกู้ภัยน่านเปลี่ยนถ่ายกับรถกู้ชีพนครน่านและนำส่งโรงพยาบาลน่าน

 

 

 

 

 

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองน่านสามารถควบคุมตัวนายเอ (นามสมมุติ) อดีตพ่อตาของนายเอ (นามสมมุติ) ที่ใช้อาวุธมีดแทง นายบี (นามสมมุติ) อดีตลูกเขยจนได้รับบาดเจ็บสาหัส

 

โดยนายบี  ผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นอดีต พ่อตา ของคนเจ็บ เปิดเผยว่า สาเหตุที่มีปากเสียง กับอดีตลูกเขย ทะเลาะวิวาทให้ฟังว่าลูกสาวตนได้เคยอยู่กินฉันสามีภรรยากับนาย บี (นามสมมุติ) ผู้บาดเจ็บ แล้วได้เลิกลากันไป แต่นายบี ยังอาศัยอยู่ในบ้านของตน วันเกิดเหตุ นายบี ได้พาเมียใหม่เข้ามานอนในบ้านของตนที่อาศัยอยู่กับลูกสาว ซึ่งตนรู้สึกว่าการกระทำอย่างนี้เหมือนหยามกัน อาศัยอยู่บ้านเมียเก่าแต่เอาเมียใหม่เข้ามานอนที่บ้าน จึงเข้าต่อว่าลูกเขยจึงสร้างความไม่พอใจให้นายบี (นามสมมุติ) อดีตลูกเขย

 

 

 

 

แต่ในขณะนั้นญาติของทางนายเอ (นามสมมุติ) อดีตพ่อตาได้พูดสอดแทรกขึ้นมาว่าไปยุ่งอะไรกับเขา ทำให้ นายเอ อดีตพ่อตา เกิดความไม่พอใจจึงชกญาติของตนเองเข้าไป 1 ที ทำให้ฝ่ายอดีตลูกเขยไม่พอใจจึงปรี่เข้ามาต่อยหน้าอดีตพ่อตาเข้าเต็มปากเต็มคางไป 1 ที จากนั้นก็เกิดชุลมุนกลายเป็น  3 รุม 1 คือ เมียใหม่อดีตลูกเขย อดีตลูกเขย และญาติของอดีตพ่อตา รุมกินโต๊ะนายเอ 
 

 

 

 

 

 

จังหวะนั้น  อดีตพ่อตา จึงเลยควักมีดปลายแหลมแทงสวนไป 1 ครั้ง คมมีดไปถูกใต้ราวนมอดีตลูกเขยจนได้รับบาดเจ็บสาหัส จากนั้นมีพลเมืองดีแจ้งให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลน่าน

 

โดยทางฝ่ายพ่อตาแจ้งได้เข้าแจ้งความร้องทุกว่าอดีตลูกเขยได้บุกรุกเคหะสถาน และร่วมกันทำร้ายร่างกายตน แต่ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมือบน่านยังไม่รับแจ้งความ ต้องรอให้ผู้ได้รับบาดเจ็บสามารถให้การสอบสวนได้ก่อนเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย

 

ไชยรัตน์ รัตสิมวงศ์ ผู้สื่อข่าวจังหวัดน่าน