"กัญชากัญชง"สภารับหลักการวาระแรก ดันสู่กม.สร้างรายได้

8 มิถุนายน 2565 ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติรับหลักการร่างพ.ร.บ.กัญชากันชง ด้วยคะแนน 373 ต่อ 7 งดออกเสียง 23 คน พร้อมตั้งกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ พิจารณาศึกษา 25 คน โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูลส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย อภิปรายสรุปร่างกฎหมาย หลังสภาผู้แทนราษฎรอภิปรายให้ข้อสังเกตข้อเสนอแนะ

โดยนายอนุทิน ระบุว่า จะนำทุกข้อเสนอแนะไปสื่อสารกับกระทรวงสาธารณสุข และปรับแก้ในชั้นกมธ. เพื่อนำกัญชาและกัญชงไปใช้ในทางการแพทย์ได้อย่างเหมาะสมอย่างมีความเข้าใจที่ถูกต้อง

ทั้งนี้ เช่น เรื่องค่าธรรมเนียมการขออนุญาตจดแจ้งในการปลูก อาจจะไม่มีการเก็บสำหรับประชาชนที่ใช้ในครัวเรือน ส่วนผู้ผลิตภาคธุรกิจการค้าอุตสาหกรรม จัดเก็บในอัตราที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ซึ่งทุกข้อเสนอแนะและความห่วงใยจากสมาชิกที่มีต่อประชาชน หากมีผู้นำไปใช้ในทางที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ

อย่างไรก็ตาม โดยได้ฟังปัญหาเรื่องการสูบ-เสพในที่สาธารณะ บริโภคเกินขนาด และอาจทำให้เกิดพฤติกรรมสร้างความรำคาญใจเดือดร้อนแก่ผู้อื่น โดยยืนยันว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นไปตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขและรัฐบาล และไม่ได้เป็นไปตามเจตนารมย์ของการปลดล็อกกัญชา พร้อมย้ำหลักการของกฎหมายฉบับดังกล่าวสำหรับการใช้ "กัญชา" เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และสุขภาพเท่านั้น

“ผมคาดหวังที่จะจัดทำร่างกฎหมายให้แล้วเสร็จภายในสมัยประชุมนี้ ซึ่งจะได้ลดความห่วงใยของประชาชนจากผลกระทบที่เกิดขึ้นตามการอภิปรายของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยเชื่อว่าพืชกัญชากัญชงจะเป็นพืชทางเศรษฐกิจที่สร้างรายได้ให้กับประชาชน”นายอนุทิน กล่าว

ทั้งนี้ ได้อ้างอิงตลาดกัญชาทั่วโลกที่คาดการณ์ว่าในปี 2567 จะมีมูลค่ามากถึง 3.5 ล้านล้านบาท ซึ่งในจำนวน 2 ล้านล้านบาท จะเป็นสินค้าที่เป็นผลิตภัณฑ์นำไปใช้ทางการแพทย์ที่เหลือ ส่วนอีก 1.5 ล้านล้านบาท จะนำไปใช้ในทางสันทนาการ ผลิตสินค้า อาหารเครื่องดื่ม ในจำนวนที่สูงมากขนาดนี้ เป็นโอกาสของเกษตรกรไทยและผู้ประกอบการไทย ที่จะมีส่วนแบ่งในตลาดกัญชากัญชงของโลก นำกัญชาชงมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ

นายอนุทิน ย้ำว่า ร่างกฎหมายฉบับนี้จะเป็นเครื่องมือสำคัญที่ทำให้นโยบายของรัฐบาลในเรื่องของการศึกษาวิจัยพัฒนาใช้กัญชากัญชงไทย และพืชสมุนไพรในทางการแพทย์และอุตสาหกรรมทางการแพทย์ สำหรับสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและรายได้ของประชาชน โดยมีการกำหนดกลไกที่รัดกุมเพื่อไม่ให้กระทบต่อสังคม

ขณะเดียวกัน ตั้งแต่กระทรวงสาธารณสุขได้ผลักดันนโยบายกัญชา กัญชงตามวาระของรัฐบาลชุดนี้ ได้นำมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ จนมียาที่มีส่วนผสมของกัญชงกัญชา 8 รายการขึ้นเป็นบัญชีของชาติ ดังนั้น ร่างกฎหมายฉบับนี้สภาผู้แทนราษฎรจะได้ร่วมกันเขียนบทบาทใหม่ของสภาเป็นประวัติศาสตร์ ซึ่งเชื่อว่าประชาชนกำลังรอคอยร่างกฎหมายฉบับนี้อีก

ทั้งนี้ นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปพรรคร่วมฝ่ายค้าน ได้แสดงความห่วงใยต่อร่างพ.ร.บ.กัญชากันชง ในช่วงอภิปราย ว่า เป็นการเขียนร่างกฏหมายที่กำกวม เปิดช่องให้ทำธุรกิจได้ แต่เป็นห่วงเด็กและเยาวชน แม้กกหมายจะกำหนดอายุต้องไม่น้อยกว่า 20 ปี แต่ขณะนี้ไปหมดแล้ว ยาบ้ายังเอาไม่อยู่เป็นห่วงประเทศไทยจะกลายเป็นนครกัญชา ขอให้รอบคอบในการพิจารณาขั้นตอนต่อไป