สุดทน "เกรช กาญจน์เกล้า"หอบหลักฐานร้องโดนสวมรอยเปิด "เพจปลอม" ตุ๋นคนลงทุน

8 มิ.ย. 2565  ที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม น.ส.กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า  หรือ “เกรซ กาญจน์เกล้า”  นักแสดงสาว  เข้าแจ้งความดำเนินคดีเพจปลอมที่แอบอ้างชื่อก่อให้เกิดความเสียหาย โดยมี นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส)  พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทำนุรัฐ คงมั่น รองผู้บังคับการ ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 ( รอง ผบก.สอท.1 ) และ ตำรวจ สอท. 

 

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ปัจจุบันมีการทำเพจปลอม โดยนำรูปดารา หรือ บุคคลที่มีชื่อเสียง มาใช้หลอกหลวงจำนวนมาก ซึ่งกรณีของ "เกรซ กาญจน์เกล้า" ก็เป็นหนึ่งในดาราที่เป็นผู้เสียหาย จึงได้เข้ามาร้องเรียนกับทางกระทรวงฯ ซึ่งจะมีการเร่งประสานไปยังแพลตฟอร์มเฟซบุ๊กให้มีการปิด เพจปลอมนี้โดยเร็ว ซึ่งที่ผ่านมา  ได้รับความร่วมมือ จากเฟซบุ๊กอย่างดี และจะให้ทางตำรวจสืบสวนหาคนกระทำผิดมาดำเนินคดีโดยเร็ว อยากให้คนที่เสียหายลักษณะนี้ สามารถแจ้งความออนไลน์ได้ 

 

 

 

 

 

ด้านนางเอกสาว เกรซ กาญจน์เกล้า  เผย  ตนทราบเรื่องจาก พี่บุ๋ม ปนัดดา โดยได้ส่ง  DM  มาในอินสตาแกรมว่า มีมิจฉาชีพ น้องรู้จักหรือไม่ แล้วนี่คือเพจของน้องใช่ไหม เราก็บอกไม่ใช่ เขาบอกว่ามีการหลอกผู้เสียหายไปทำธุรกิจ เราเพิ่งทราบเรื่อง พยายามรวบรวมหลักฐานอยู่ ผู้เสียหายหลาย ๆ คนมาฟ้องร้องกับทางเพจของพี่บุ๋ม ก็มีได้คุยกันแล้วหลังจากนี้จะต้องไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ใช้เป็นชื่อเรา รูปเราแล้วอ้างว่าทำธุรกิจกับเรา เป็นธุรกิจเครือข่ายขายสินค้าออนไลน์ หลอกให้ตายใจ ลงทุนซื้อขายของแล้วก็ได้เงินก้อนแรกจริง หลังจากนั้นก็ไม่สามารถถอนเงินได้ เท่าที่ทราบมามีหลายเคสแล้ว ที่โดนมากสุดก็เป็น 100,000 บาท ต่อคน เลยคิดว่า ต้องโพสต์แล้วแหละว่าไม่ใช่เราจริง 

 

 

 

 

วันนี้จึงรีบมาแจ้งความเลยทันที ต้องตามล่าหาตัวให้ได้ เพราะมันไม่ใช่แค่เราที่ชื่อเสียงเราเสียหาย แต่คนอื่นเขาเสียเงิน บางคนเขียนว่าเป็นเงินก้อนสุดท้ายไม่ได้แล้ว คงต้องตามล่าให้ถึงที่สุด 

 

 

 

 

 

เบื้องต้นมีผู้เสียหายกว่า10 ราย ไม่รู้ว่าทำมานานหรือยัง เพราะว่าเพจนั้นเป็นเพจปลอม แล้วเขาไม่มีข้อมูลอะไรเลย ตอนนี้เท่าที่เห็นมีสลิปโอนเงิน ยังไม่แน่ใจเหมือนกันว่าตรงนี้มันจะอะไรยังไง แต่เราก็คงต้องดำเนินการให้ถึงที่สุด 

 

 

 

 

พ.ต.อ.ทำนุรัฐ กล่าวว่า การกระทำดังกล่าว อาจเข้าข่ายฉ้อโกง แสดงตนเป็นคนอื่น โทษจำคุกและปรับ , ความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง , นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทโทษจำคุกทั้งจำทั้งปรับ , ผู้ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ปรากฎเป็นภาพของผู้อื่น และภาพนั้นเป็นภาพที่เกิดจากการสร้างขึ้น ตัดต่อ เดิม หรือดัดแปลงด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการอื่นใด โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นถูกเกลียดชังหรือได้รับความอับอาย โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรับไม่เกิน 200,000 บาท และอาจเข้าข่ายฐานละเมิดลิขสิทธิ์ ตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ เผยแพร่งานลิชสิทธิ์ ต่อสาธารณชนโดยไม่ได้รับอนุญาตระวางโทษปรับตั้งแต่ 20,000 -200,000บาท เป็นการกระทำเพื่อการค้า ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 4 ปี และอาจเข้าข่ายความรับผิดทางทางแพ่งคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และจะนำตัวผู้แอบอ้างมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป