รวบยกแก๊ง "ATK" ทิพย์ เหยื่อหลงเชื่ออื้อ สูญเงินกว่า 20 ล้าน

7 มิ.ย. 2565 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.ธรากร เลิศพรเจริญ รอง ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.4 บก.ปคบ. พ.ต.ท.สุพจน์ พุ่มแหยม รอง ผกก.4 บก.ปคบ. พ.ต.ท.นิธิ ตรีสุวรรณ รอง ผกก. ได้สั่งการให้ทลายเครือข่าย หลอกขายชุดตรวจ ATK หลังได้รับการร้องเรียนจากผู้เสียหายจำนวนมากว่า มีการโฆษณาขายชุดตรวจ ATK ผ่านเพจเฟซบุ๊กหลากหลายชื่อ ทำให้ประชาชนสนใจเข้าไปสั่งซื้อและโอนเงิน เป็นที่เรียบร้อย แต่ปรากฎว่าไม่มีการส่งสินค้ามาให้ ผู้เสียหายจึงรวมตัวกันมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ.

 

 

 

 

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการสืบสวนจนทราบว่า กลุ่มผู้ต้องหาได้หลอกลวงโดยทำการสร้างเพจเฟซบุ๊ก โฆษณาหลอกขายชุดตรวจโควิด-19  ATK เมื่อมีผู้สนใจหลงเชื่อ และได้ทักเข้าไปสนทนาในกล่องข้อความของเพจเฟซบุ๊กดังกล่าว และโอนเงินชำระเรียบร้อยแล้ว ผู้ต้องหาจะทำการปิดกั้นการสนทนากับผู้เสียหาย ซึ่งมีผู้เสียหายในลักษณะดังกล่าวเป็นจำนวนมาก

 

 

 

 

จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่ากลุ่มผู้ต้องหามีการเปิดบัญชีม้าจำนวนมาก เพื่อใช้ในโอนเงินต่อไปอีกหลาย ๆ ทอด เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจับกุมโดยพบว่ามีมูลค่าความเสียหายมากกว่า 20 ล้านบาท

 

จากการสืบสวนเพิ่มเติม พบว่ามีเพจเฟชบุ๊กที่น่าเชื่อว่าเป็นของกลุ่มผู้ต้องหา ที่เปิดมาเพื่อใช้ในการหลอกขายชุดตรวจ ATK อีกจำนวนมาก จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายจับผู้ต้องหาจำนวน 6 ราย ประกอบด้วย

1.นายพัสสน (สงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี
2.นายนนธวัฒน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี (ปัจจุบันต้องโทษคดียาเสพติด อยู่ที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง) 
3.น.ส.สุวัฒนา (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี
4.นายอภิชาติวุฒิ (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี 
5.นายปฏิพัทธ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี 
6.นายหลง (สงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี 

 

 

 

 

 

ต่อมาเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2565เจ้าหน้าที่ กก.4 บก.ปคบ. รวมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ป., สภ.หนองหาน และ สภ.หางดง ได้บูรณาการปูพรมลงพื้นที่ทั้ง 5 จังหวัด เพื่อติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด

 

 

 

จากการซักถาม นายพัสสน, น.ส.สุวัฒนา, นายอภิชาติวุฒิ และนายปฏิพัทธ์ รับว่าตนรับจ้างเปิดบัญชีธนาคาร (บัญชีม้า) โดยได้ค่าจ้างบัญชีละ 400-500 บาท ส่วนนายหลง ให้การปฏิเสธว่าไม่รู้เห็นในเรื่องการฉ้อโกง แต่รับว่าเป็นผู้ถอนเงินที่ได้จากการกระทำความผิด ออกจากตู้เอทีเอ็ม โดยได้ค่าจ้างครั้งละ 1,000 บาท ต่อการถอนเงิน 100,000 บาท ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของนายหลง โดยจะทำการสืบสวนขยายผลต่อไป

 

กก.4 บก.ปคบ. ขอประชาสัมพันธ์ว่า หากประชาชนท่านใดเคยถูกหลอกขายชุดตรวจโควิด-19 (ATK)ในลักษณะดังกล่าว สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ที่ กก.4 บก.ปคบ. เพื่อประกอบการดำเนินคดีเพิ่มเติมกับกลุ่มผู้ต้องหาต่อไป