ข่าว

พรุ่งนี้ชี้ชะตา"อดีตผกก.โจ้" คดีถุงคลุมหัวเหยื่อดับ ลุ้นโทษจำคุก-ประหาร

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

วันพรุ่งนี้(7 มิ.ย.65) ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นัดฟังคำพิพากษาคดี "อดีตผกก.โจ้" และลูกน้อง ใช้ถุงดำคลุมศีรษะผู้ต้องหาคดียาเสพติด จนเสียชีวิตเมื่อปี2564

จากข่าวโด่งดังเมื่อช่วงกลางปี 2564 คดีที่พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ อดีตผู้กำกับโจ้ อดีตผู้กำกับการสภ.เมืองนครสวรรค์ พร้อมพวกรวม 7 คน ใช้ถุงพลาสติกสีดำคลุมหัว นายจิระพงษ์ หรือมาวิน ธนะพัฒน์ ผู้ต้องหาคดียาเสพติดจนเสียชีวิต บน สภ.เมืองนครสวรรค์

 

ความคืบหน้าของคดีล่าสุด วันพรุ่งนี้ 8 มิถุนายนนี้ เวลา 09.30 น. ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ได้นัดอ่านคำพิพากษาคดีดังกล่าว เนื่องจากศาลได้สืบพยานจำเลยนัดสุดท้ายเมื่อวันที่ 24 มี.ค.65 ที่ผ่านมา ส่วนจะมีการเบิกตัวจำเลยทั้ง 7 คน มาฟังคำพิพากษาที่ศาลหรือไม่ ขึ้นกับดุลพินิจของศาล เกี่ยวกับสถานการณ์แพร่ระบาดเชื้อโควิด-19

โดยคดีนี้เกิดขึ้น หลังจากที่มีตำรวจชั้นผู้น้อยร้องเรียนผ่านทางษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ พร้อมกับนำภาพจากกล้องวงจรปิดขณะก่อเหตุประมาณ 10 นาที ออกมาเผยแพร่ จนได้รับความสนใจจากสังคมเป็นอย่างมาก
 

จากนั้นพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เซ็นคำสั่งให้ "อดีตผกก.โจ้" และพวกออกจากราชการไว้ก่อน  เนื่องจากประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง และขออนุมัติศาลออกหมายจับในเวลาต่อมา แต่ขณะนั้นเจ้าตัวหลบหนีไปได้ ก่อนจะติดตามขอเข้ามอบตัว 

สำหรับอดีตผู้กำกับโจ้ กับพวกรวม 7 คน ถูกแจ้งข้อหาหนัก 4 ข้อหาด้วยกัน ประกอบด้วย


1.เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
2.เป็นเจ้าพนักงานของรัฐ ร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่ง หรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่ง หรือหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
3.ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย
4.ร่วมกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น
 

ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ,90 ,157 ,288 ,289(5) ,309 วรรคสอง พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 4 , 172 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ