ครูทำร้ายเด็กนักเรียน ทิ้งไม่ใยดี เพื่อนต้องช่วยหาม ไปโบกรถส่งโรงพยาบาล

เฟซบุ๊ก Pattani Thai News ได้โพสต์ถึงกรณี "ครูทำร้ายเด็กนักเรียน" สาหัสที่จังหวัดปัตตานี ว่า "จากกรณีมีการโพสต์ภาพในสื่อโซเซียล เป็นภาพเด็กชาย ที่มีอาการเลือกออกทางจมูกและบริเวณตามีลักษณะที่บวมอย่างเห็นได้ชัด  และระบุว่าเป็นเหตุการณ์ซึ่งเหตุเกิดขึ้นเมื่อคืน วันที่ 3 มิถุนายน 2565 เวลาประมาณเวลา 21.00 น. น้องถูกซ้อมจนอาการสาหัส โดยผู้ที่เป็นบาบอ ซ้อมเสร็จแล้วไม่ดูแลหรือไปส่งโรงพยาบาล ทิ้งน้องไว้ตรงนั้นแล้วก็บอกเด็กอื่นๆว่า “พวกมึ-จัดการกันเองนะ”แต่ก็ยังดีที่มีเด็ก ๆ ที่เรียนด้วยกัน ช่วยกันโบกรถบนถนน หาชาวบ้านแถวนั้นมาช่วย ขอร้องให้ไปส่งน้องที่โรงพยาบาล"

นายนิเพาซาน วาบา ปลัดอำเภอยะหริ่ง จ.ปัตตานี เปิดเผยถึงกรณี "ครูทำร้ายเด็กนักเรียน" ว่า จากการสอบสวนเบื้องต้น สำหรับเหตุการณ์นี้บาบอในฐานะที่เป็นเจ้าของปอเนาะ ก็อาจจะมีการตักเตือนลูกศิษย์ ซึ่งลูกศิษย์อาจจะเกิดความไม่เข้าใจ หรือไม่ปฎิบัติตามระเบียบที่กำหนดไว้ บาบอเกิดบันดาลโทสะ อารมณ์ชั่ววูบทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น อยากให้ประชาชนทำความเข้าใจกับเรื่องนี้ ซึ่งในพื้นที่ก็พยายามแก้ไข เจรจาอยู่โดยทีมของนายอำเภอยะหริ่งก็ได้ไปเยี่ยม ให้บาบอไปขอโทษกับผู้ปกครองจนทำให้ผู้ครองและญาติพี่น้องเกิดความเข้าใจ

ส่วนฝ่ายเด็กที่โดนทำร้าย อายุ 18 ปี และเป็นเด็กพิเศษ​ ถูกส่งตัวมาจากโรงพยาบาลยะหริ่งเพื่อมาเอ็กซเรย์ร่างกายโดยละเอียดอีกรอบ ขณะนี้ มีทางแม่เด็กและพี่สาวของเด็กกำลังดูแลอยู่ที่โรงพยาบาลปัตตานีอย่างใกล้ชิด 
 

ด้านพี่สาวของเด็กที่ได้รับบาดเจ็บ ระบุว่า มีเด็กใหม่รุ่นน้องได้เข้ามาสอนหนังสือ และน้องชายตนเองบอกว่าสอนไม่ถูก จึงตะคอกใส่ รุ่นน้องจึงไปฟ้องบาบอ กระทั่งบาบอเข้ามาทำร้าย หลังจากทำร้ายแล้วก็ปล่อยให้น้องชายตนอยู่แบบนั้น แต่โชคดีที่มีรุ่นพี่ได้เห็นว่าน้องชายตนหายใจถี่ จึงได้เรียกคนประมาน 5คน ช่วยกันหาม พาน้องไปยังหน้าปากซอยเพื่อโบกรถข้างทางให้ไปส่งโรงพยาบาล 

สำหรับอาการของน้องล่าสุด คือตาบวม หูไม่ได้ยิน และเจ็บที่ตนคอ ฟันหัก เวลาขยับปากก็จะมีเลือดไหลออกมา  ซึ่งหลังจากนี้ตน จะดำเนินการตามกฎหมาย และให้ทางบาบอเยียวยาดูแลค่ารักษาน้องชาย เพราะตอนนี้ครอบครัวก็ลำบาก ทุกคนต้องหยุดงานเพื่อมาดูแล รู้สึกตกใจมาก ทำอะไรไม่ถูก แต่โชคดีมากที่ทางโรงพยาบาลยะหริ่ง และโรงพยาบาลปัตตานี หลังทราบข่าวก็ดูแลเป็นกรณีพิเศษ ตนต้องขอบคุณทางโรงพยาบาลมาก ๆ