เปิดภาพรัง "คอลเซ็นเตอร์" หนุ่มโดนหลอกทำงาน ฝั่งปอยเปต ก่อนออกอุบายหนีกลับ

6 มิ.ย.2565 ผู้สื่อข่าวได้รับการติดต่อจาก นายหนุ่ม(นามสมมุติ) อายุ 43 ปี ชาวพิษณุโลก ว่าตนหลงกลถูกหลอกว่าจะพาไปทำงานเกี่ยวกับเว็บพนันบาคาร่า ฝั่งปอยเปต โดยมีการเสนอเงินเดือน เดือนละ 30,000 บาท ทำสัญญา 6 เดือน เมื่อหมดสัญญา หอบเงินกลับไทยได้เลย จึงตัดสินใจเดินทางไปทำงาน แต่เมื่อไปถึงกลายเป็นถูกว่าหลอกให้ไปทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์  ทำงานได้เพียง 1 วัน ยืนยันไม่ทำต่อ จึงถูกขังแยก 7 วัน ก่อนอ้างมีหมายศาลต้องกลับมาขึ้นศาลถึงโดนปล่อยตัว ก่อนถูกข่มขู่ห้ามนำเรื่องราวไปเปิดเผยไม่งั้นเอาถึงตาย

 

 

 

 

 

 

 

 

นายหนุ่ม(นามสมมุติ) เล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้านี้ ตนตกงานครอบครัวขาดรายได้ ไปเจอประกาศหางานในโซเชียล ตนสนใจจึงได้แอดไลน์  ไปก็มีคนติดต่อมาเสนองานให้ว่าทำงานฝั่งปอยเปต เป็นงานประเภทเว็บการพนันพวกบาคาร่า มีสัญญาทำงาน 6 เดือน ให้เงินเดือนเดือนละ 30,000 บาท แต่เป็นข้ามฝั่งแบบผิดกฎหมาย ตอนนั้นตนก็สนใจอยากได้เงินจึงตกลงจะเดินทางไป ก็มีคนโทรติดต่อแจ้งการเดินทางมาเป็นระยะ

 

 

 

 

โดยเริ่มจากคืนวันที่ 18 พ.ค.65 เดินทางโดยรถทัวร์ไปหมอชิต จากนั้นนั่งรถตู้จากหมอชิต ไป อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จากนั้นมีคนมารับไปพักที่จุดคอยรอเวลาให้มืด จนกระทั่ง 1 ทุ่ม  ก็ออกเดินทางด้วยเท้า ข้ามด่านธรรมชาติไปประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ ก็มีคนมารับขึ้นรถไป เมื่อเดินทางไปถึงที่ทำงานที่เขาบอกเป็นตึกใหญ่โต หลายตึก มีคนเป็นพัน ๆ คน พอถึงก็พาเราเข้าที่พักยึดเอกสารทุกอย่างที่เรามี ส่วนโทรศัพท์ตนเอาซ่อนเอาไว้แต่ถูกตัดสัญญาณหมด

 

 

 

 

จนเช้าวันที่ 22 พ.ค.65 พาเราไปทำงาน เราถึงรู้ว่าถูกหลอกให้เราเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์  เพราะ งานที่ให้ทำคือให้เราเฝ้าโทรศัพท์ 1 เครื่อง มีสคริปต์ทุกอย่างให้หมด ให้เราปลอมเป็นไปรษณีย์ไทยแจ้งว่ามีการอายัดของผิดกฎหมาย จากนั้นก็จะมีการส่งต่อไปยังแก๊งที่ปลอมเป็นศุลกากร และส่งต่อไปยังแก๊งที่เป็นตำรวจ ถ้าใครหลอกได้จะได้เปอร์เซ็นต์ ล้านละ 6 หมื่น ตนนั่งทำอยู่ได้ 1 วัน ก็ยืนยันไม่ทำเพราะมันไม่ใช่อย่างที่คุยกันไว้ เขาก็เอาเราไปขังไว้ห้องเดี่ยว มีแค่อาหารให้กันวันละ 1 มื้อ 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตนถูกขังอยู่ 7 วัน ก่อนอ้างว่าเรามีหมายศาลต้องกลับมาขึ้นศาลในวันที่ 19 มิ.ย.นี้ ไม่งั้นต้องติดคุก เขาก็ไปปรึกษากันอยู่หลายวันก่อนที่เขาจะปล่อยตัวตนให้กลับมาโดยกลับมาเส้นทางเดิมที่เดินทางไป ตอนนั้นกลัวมากเพราะตนไม่รู้เลยว่าจะได้กลับบ้านจริง ๆ หรือเปล่า จนถึงอรัญประเทศที่เขาปล่อยไว้ ก็รีบติดต่อกลับหาครอบครัวและหาทางเดินทางกลับมาจนถึงพิษณุโลก เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.65 ที่ผ่านมา 

 

 

 

 

ตนจึงตัดสินใจอยากมาเปิดเผยข้อมูลทุกอย่างให้สื่อมวลชนฟัง และอยากจะฝากเตือนเป็นอุทาหรณ์ให้คนที่หลงกลตกเป็นเหยื่อเพราะอยากได้เงินเหมือนตน ให้ระวัง เพราะตนถือว่ายังโชคดีที่ได้กลับมาหาครอบครัวอีกครั้ง เพราะคนไทยอีกหลายร้อยคนในนั้นเขาอยากกลับแต่ไม่มีโอกาสได้กลับออกมาอีกเลย

 

ทีมข่าวภาคเหนือ