"อ่างเก็บน้ำห้วยทรายขมิ้น" สกลนคร จากการปรับภูมิทัศน์ให้สวยงาม ปัจจุบันกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่ เสริมรายได้ให้เกษตรกรและประชาชนในพื้นที่
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่าภายหลังจากที่ "อ่างเก็บน้ำห้วยทรายขมิ้น" อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต.พังขว้าง อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร ได้เปิดใช้งานอย่างเต็มรูปแบบมาแล้ว 2 ปีหลังจากที่เสียหายจากพายุโซนร้อนเซินกาเมื่อวันที่ 24-27 ก.ค. 2560 และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ รับ "โครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยทรายขมิ้น" ไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
กรมชลประทานได้สนองพระราชดำริในการปรับปรุงเพิ่มความจุ "อ่างเก็บน้ำห้วยทรายขมิ้น" จากความจุเดิม 2.40 ล้าน ลบ.ม. เป็น 3.18 ล้าน ลบ.ม.ตามข้อจำกัดของสภาพภูมิประเทศ สามารถส่งน้ำสนับสนุนกิจกรรมเพาะปลูกพืชฤดูฝนได้ประมาณ 3,000 ไร่ และฤดูแล้งได้ประมาณ 1,000 ไร่
นอกจากนี้ในพื้นที่โครงการได้มีการออกแบบภูมิทัศน์ให้สวยงาม ปัจจุบันกลายเป็น "แหล่งท่องเที่ยวใหม่" ของจังหวัดสกลนคร สามารถสร้างได้รายเสริมให้เกษตรกรและประชาชนในพื้นที่ได้อีกด้วย
นายโรจน์วัฒน์ อินทร์ทุ่ง ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ กล่าวว่าหลังจากที่ "อ่างเก็บน้ำห้วยทรายขมิ้น" ได้ดำเนินการปรับปรุงแล้วเสร็จ ประชาชนและเกษตรกรในพื้นที่ได้ตั้งคณะกรรมการจัดการชลประทานโครงการชลประทานสกลนคร(ลุ่มน้ำย่อยห้วยทรายขมิ้น)(JMC) โดยบริหารในลักษณะอ่างฯพวงที่มีด้วยกัน 5 อ่างฯ
ได้แก่ อ่างเก็บน้ำห้วยบ่อ อ่างเก็บน้ำห้วยทรายตอนบน 1 -3 และอ่างเก็บน้ำห้วยทรายขมิ้นซึ่งกรรมการฯจะประชุมวางแผนการบริหารจัดการน้ำทั้ง 5 แห่งและแบ่งสรรปันส่วนกันสำหรับใช้ในการปลูกพืชทั้งปี ในการประชุมจะมีการนำเสนอปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ เพื่อให้การใช้น้ำเกิดประโยชน์สูงสุด ผลจากการมี JMC สามารถลดปัญหาการจัดสรรน้ำได้อย่างน่าพอใจ จากเดิมที่มักมีปัญหาในช่วงฤดูแล้ง
ด้านนายทรงธรรม ไผ่แก้วตา กำนันตำบลขมิ้น อ.เมือง จ.สกลนคร กล่าวว่า หลังจากมีการปรับปรุงเขื่อนและเพิ่มความจุของอ่างฯ ทำให้เกษตรกรในพื้นที่ต.ขมิ้น และ ต.พังขว้าง มีชีวิตที่ดีขึ้น แม้จะเป็นอ่างฯขนาดเล็ก เพราะได้มีการตั้งคณะ JMC ทำให้แบ่งน้ำกันใช้ได้เหมาะสมทั้งการเกษตรและกิจกรรมอื่นในพื้นที่และบริเวณรอบอ่างฯประมาณ 6 กม. มีการปรับภูมิทัศน์ให้สวยงาม
ทุกวันจะมีประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงและจากตัวเมืองสกลนคร ซึ่งห่างออกไปประมาณ10 กม.มาออกกำลังกาย มาปั่นจักรยาน และวันหยุดกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว ทำให้เกษตรกรและคนในพื้นที่มีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างน่าพอใจและล่าสุดได้เข้าไปอยู่ในการดูแลของศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริมีการส่งเสริมการทำเกษตรทฤษฏีใหม่ โครงการเกษตรกรต้นแบบการให้ความรู้ การทำเกษตรที่ถูกต้อง รวมถึงปัจจัยการผลิตที่ขาดแคลน นายทรงธรรม กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง