"สับปะรดสีชมพู" อันตราย GMO ห้ามนำเข้า เตือนใครครอบครองจำคุก 1 ปีปรับ 2 หมื่น
รมช.เกษตรฯ มนัญญา ไทยเศรษฐ์ เตือนประชาชนไม่ซื้อ-ไม่ขาย "สับปะรดสีชมพู" ย้ำประเทศไทยปลอดพืช GMO พบใครครอบครองเอาผิดตามกฎหมายทันที
นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรฯ กล่าวถึงกรณีที่มีการระบุว่ามีการพบ "สับปะรดเนื้อสีชมพู" ซึ่งเป็นพืชตัดต่อพันธุกรรมหรือจีเอ็มโอ(GMO)ว่า ได้ให้กรมวิชาการเกษตรตรวจเข้มทุกพื้นที่เพราะไทยมีนโยบายปลอด "พืชจีเอ็มโอ" ไม่มีการอนุญาตนำเข้าแต่อย่างใด ดังนั้นฝากเตือนประชาชนว่าอย่านำเข้าพืชดังกล่าวหรือสนับสนุนในการซื้อขายเพื่อรักษาชื่อเสียงประเทศไทย
กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมวิชาการเกษตรไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใดได้มีการติดตามตรวจสอบต่อเนื่องและจะยิ่งเข้มข้นเพิ่มมากขึ้น ต้องขอบคุณทุกภาคส่วนที่ช่วยกันเป็นหูเป็นตาให้กันและกัน เพราะลำพังภาครัฐบางครั้งจำกัดด้วยกำลังคน โดยเฉพาะยุคที่การซื้อขายผ่านระบบออนไลน์ที่มีการส่งสินค้ากันมาก ทำให้สุ่มเสี่ยงกับการส่งของผิดกกฎหมาย ดังนั้นฝากประชาชนว่าใครพบเห็นให้รีบแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ของกระทรวงเกษตรฯทันที นางสาวมนัญญากล่าว
นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า กรมวิชาการเกษตรยืนยันว่าไทยไม่มีการอนุญาตให้นำเข้า "พืชจีเอ็มโอ" กรณี "สับปะรดสีชมพู"(Pinkglow)ของ บ. Del Monte ดังกล่าวปลูกในประเทศคอสตาริกาและเป็นพืชจีเอ็มโอไม่มีการอนุญาตให้นำเข้าหรือจำหน่ายแต่อย่างใด
นอกจากนั้นกรมยังได้เคยมีการติดต่อไปสื่อออนไลน์ที่โฆษณาจำหน่ายได้รับการแจ้งว่าไม่มีสินค้า และรายที่โฆษณาว่ามีหน่อพันธุ์จำหน่ายนั้นพบว่าเป็นสับปะรดประดับซึ่งไม่ใช่พืชจีเอ็มโอ นอกจากนั้นกรมมีการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องการเฝ้าระวังการนำเข้าและกรณีการโฆษณาขายผ่านสื่อโฆษณา หากพบกรมวิชาการเกษตรจะเข้าดำเนินการทันที
ขอฝากเตือนผู้ลักลอบนำเข้าว่าหากพบ มีโทษตามกฎหมายตาม พ.ร.บ.กักพืช พ.ศ. 2507 ที่ผู้กระทำผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนั้นกรณีกรมวิชาการเกษตรตรวจพบว่ามีการลักลอบซื้อ-ขาย หรือปลูกสามารถยึดอายัดและทำลายได้ทันทีผู้ซื้อ- ผู้ขาย เรียกร้องค่าเสียหายจากใครไม่ได้ดังนั้นมีแต่เสียด้านเดียว จึงขอวอนประชาชนว่าอย่าสนับสนุนพืชดังกล่าว ซึ่งกรมจะมีการจัดทำโปสเตอร์แสดงชนิด "พืชสับปะรดสีชมพู" เพื่อเป็นเครื่องมือช่วยประชาชนได้ช่วยตรวจสอบอีกทางหนึ่งด้วย นายระพีภัทร์กล่าว
"พืชสับปะรด"หรือส่วนใดส่วนหนึ่งสับปะรด Ananas Comosus(L)Merr. จัดเป็นสิ่งที่ต้องห้ามภายใต้พ.ร.บ.กักพืช พ.ศ. 2507และแก้ไขเพิ่มเติม สามารถนำเข้าได้เฉพาะจากแหล่งที่ผ่านการวิเคราะห์ความเสี่ยงศัตรูพืชเท่านั้น
ปัจจุบันอนุญาตให้นำเข้าจากประเทศฟิลิปปินส์แหล่งเดียว หากนำเข้าจากแหล่งที่ยังไม่ผ่านการวิเคราะห์ความเสี่ยงศัตรูพืชจะถูกส่งกลับหรือทำลาย และผู้กระทำผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
ก่อนหน้านี้สภาองค์กรของผู้บริโภค ได้รับแจ้งเบาะแสจากผู้บริโภคว่าพบการเผยแพร่โฆษณาจำหน่าย "สับปะรดที่มีเนื้อสีชมพู" บนสื่อสังคมออนไลน์ โดยผลไม้ดังกล่าวเป็นผลไม้ที่ผ่านการดัดแปรพันธุกรรม หรือผลไม้จีเอ็มโอ (Genetically Modified Organisms: GMOs)เป็นสิ่งต้องห้ามในไทย สภาองค์กรของผู้บริโภค จึงเร่งรัดไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งดำเนินการเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของสับปะรดจีเอ็มโอในประเทศไทย เร่งออกประกาศเรื่องผลิตภัณฑ์จีเอ็มโอ รวมถึงฉลากจีเอ็มโอและร่วมกันเฝ้าระวังการโฆษณาผลิตภัณฑ์จีเอ็มโอบนสื่อสังคมออนไลน์ ก่อนที่พืชผักผลไม้จีเอ็นโอจะปนเปื้อนพืชท้องถิ่น สร้างปัญหาการปนเปื้อน การส่งออก และผลกระทบต่อผู้บริโภค