รวบ "ไต้ก๋งเรือ" ปราบสมุทร บังคับแรงงานล่องทะเล หาปลาน่านน้ำมาเลย์

1 มิ.ย.2565   พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ ผู้บังคับการปราบปราบการค้ามนุษย์ ( ผบก.ปคม.) พล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ ผบก.รน.  พ.ต.อ.กึกก้อง ดิศวัฒน์ ผกก.5 บก.ปคม.,    พ.ต.อ.ราม รสหอม ผกก.4 บก.รน.,    พ.ต.อ.นิรัตน์ ช่วยจิตต์ ผกก.2 บก.รน. พ.ต.ท.เกริก เสนาะสำเนียง สว.กก.5 บก.ปคม.,   พ.ต.ท.วรรณา อินเชื้อ สว.สรน.3 กก.4 บก.รน.,    พ.ต.ต.นิวัติ เฉ่งไล่ สว.กก.2 บก.รน นำกำลังจับกุม นายบุญธรรม  (สงวนนามสกุล) อายุ 52 ปี ไต้ก๋งเรือ ปราบสมุทร 39  ได้ที่ ท่าเรือเจ้าพระยากิจประมง เทศบาลบางปูท้ายบ้าน ม.6 ต.ท้ายบ้านา อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ 

สืบเนื่องจาก ปฏิบัติการของ ตำรวจสอบสวนกลาง ในการกระจายกำลังตรวจค้น  6 จุดเป้าหมายสำคัญในหลายพื้นที่ เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม ที่ผ่านมา พบ ขบวนการหลอกลวงบังคับใช้แรงงานบนเรือประมง น่านน้ำ ประเทศมาเลเซีย  โดยเริ่มตั้งแต่ กลุ่มนายหน้า จัดหาเหยื่อซึ่งเป็นคนต่างจังหวัด นั่งรถไฟเข้ามาหางานทำในกรุงเทพฯ อ้างค่าตอบแทนสูง ก่อนพาไปส่งเป็นแรงงาน บนเรือประมง ย่านสมุทรสาคร พร้อมหักค่านายหน้า 5 หมื่นบาทต่อคน ก่อนขึ้นเรือประมงล่องออกสู่อ่าวไทย แล้วลักลอบเข้าน่านน้ำ ประเทศมาเลเซีย โดยระหว่างทำงานบนเรือ  ไต้ก๋งเรือ คอยทำหน้าที่ควบคุม บังคับให้แรงงานเหล่านี้ทำงานหนักต่อเนื่อง จะได้พักวันละไม่เกิน 4 ชั่วโมง พร้อมกับลวงให้เสพติดยาเพื่อใช้ในการควบคุม หรือหากคนใด ไม่ยินยอมปฏิบัติตามคำสั่งก็จะถูกทำร้ายทุบตี 

ภายหลัง การรวบรวมพยานหลักฐานยื่นต่อศาล เพื่อขออนุมัติหมายจับ จากศาลอาญา ที่ 825/2565 ลงวันที่ 27 เม.ย.2565 ดำเนินการกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง จนนำมาสู่การเปิดยุทธการดังกล่าว พร้อมกับสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ครบทั้งขบวนการแล้ว โดยผู้ต้องหารายสุดท้ายนี้ คือ  นายบุญธรรม  ไต้ก๋งเรือปราบสมุทร 39 ซึ่งจับกุมได้ ระหว่างขับเรือเข้าเทียบท่า ที่จ.สมุทรปราการ  

นายบุญธรรม ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา อ้างว่า ช่วงเวลานั้นทำหน้าที่เป็นไต้ก๋งเรือจริง แต่เป็นการมาทำแทนไต้ก๋งเรือคนเก่า ซึ่งขณะที่ทำหน้าที่ไต้ก๋งเรือไม่เคยทำร้ายลูกเรือหรือบังคับเสพยา เบื้องต้น ตำรวจชุดจับกุม จึงควบคุมผู้ต้องหา รายนี้ ที่มีการแจ้งข้อกล่าวหา ในความผิดฐาน “สมคบกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ , ร่วมกันกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์, ร่วมกันใช้อุบายหลอกลวง หรือ ใช้กำลังประทุษร้ายบังคับข่มขืนใจพาหรือส่งคนออกไปนอกราชอาณาจักร , ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่น ,ทำร้ายร่างกายผู้อื่น ” พร้อม นำตัวส่ง กก.5 บก.ปคม. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป