ข่าว

เครือข่าย “กัญชา-เบียร์คราฟ-บุหรี่ไฟฟ้า” เชื่อเอาขึ้นบนดินได้ ปย.กว่าแบน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เครือข่าย “กัญชา-เบียร์คราฟ-บุหรี่ไฟฟ้า” ทวงสิทธิ เชื่อเอาขึ้นบนดินได้ประโยชน์กว่าแบน ชี้สังคมจะได้ประโยชน์จากการควบคุมอย่างถูกกฎหมาย

31 พ.ค.เครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า กลุ่มลาขาดควันยาสูบร่วมกับพันธมิตรเครือข่ายประชาชน กลุ่มกัญชาชน และกลุ่มประชาชนเบียร์  จัดเสวนาหัวข้อ  จากกัญชาถึงบุหรี่ไฟฟ้าและคราฟเบียร์ เนื่องในโอกาสวันงดสูบบุหรี่โลก 31 พ.ค. เพื่อชี้ถึงปัญหาการแบนจนทำให้ "บุหรี่ไฟฟ้า"และ "เบียร์คราฟ" เป็นสินค้าผิดกฎหมาย ขณะที่ "กัญชา" ซึ่งได้รับการควบคุมแล้ว กลับยังมีปัญหาความไม่ชัดเจนของกฎหมาย 

 

นายอาสา ศาลิคุปต ตัวแทนเครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า กลุ่มลาขาดควันยาสูบ เผยว่า บุหรี่ไฟฟ้าอันตรายน้อยกว่าบุหรี่ หลายประเทศอนุญาตให้ใช้เพื่อเลิกบุหรี่ได้แต่กลับเป็นสิ่งผิดกฎหมายในไทย โดยจุดประสงค์การเรียกร้องสิทธิไม่ได้ต้องการสนับสนุนให้สูบบุหรี่ไฟฟ้าเสรี แต่เป็นการให้เกิดการควบคุมให้ถูกต้อง

 

มาริษ กรัณยวัฒน์ ตัวแทนเครือข่ายผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า กลุ่มลาขาดควันยาสูบ กล่าวเสริมในประเด็นการทำให้บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสินค้าถูกกฎหมายว่า พวกเราเคยยื่นรายชื่อผู้สนับสนุนกว่า 4 หมื่นรายชื่อ พร้อมแนบงานวิจัยจากต่างประเทศจำนวนมากขึ้นที่ยืนยันตรงกันว่าบุหรี่ไฟฟ้าอันตรายน้อยกว่าการสูบบุหรี่รวมทั้งแนวทางการควบคุมของบางประเทศ เช่น อังกฤษ ที่แนะนำให้ใช้เป็นเครื่องมือเพื่อเลิกบุหรี่ได้และเราหวังให้งานวิจัยเหล่านี้ควรต้องถูกนำมาพิจารณาแต่ก็ยังมีกลุ่มรณรงค์เลิกบุหรี่ที่อคติกับเรื่องบุหรี่ไฟฟ้า ทำให้ปรับแก้มาตรการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าไม่มีความก้าวหน้าเสียที
 

ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ซึ่งร่วมเสวนาในวันนี้ด้วยกล่าวว่า  ความไม่ชัดเจนของกฎหมาย ทำให้ที่ผ่านมามีการจับกุม "ผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้า" เป็นจำนวนมากแต่พออัยการสั่งไม่ฟ้องเคสการจับกุมก็น้อยลง แต่ก็อยากฝากไปถึงผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าทุกคนว่า อย่ามีส่วนในการทำความผิดโดยการจ่ายสินบนให้กับเจ้าหน้าที่และขอให้หาทางต่อสู้ให้เกิดแนวทางที่ชัดเจนว่าผู้ใช้ผิดหรือไม่ เช่นรวมตัวกันไปยื่นเอกสารให้ผบ.สตช. พิจารณาคำสั่งไม่ฟ้องของอัยการจังหวัดปทุมธานีเป็นแนวทางบังคับใช้กฎหมายของตำรวจ เป็นต้น

 

นายรัฐพล แสนรักษ์ ผู้ก่อตั้งเพจ กัญชาชน/Highland ตัวแทนกลุ่มกัญชาชน กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ คนที่ครอบครอง "กัญชา" ถือว่ามีความผิด เพราะกัญชาเป็นสิ่งเสพติดผิดกฎหมายแต่เมื่อมีการศึกษาว่าสามารถใช้ประโยชน์จากกัญชาทางการแพทย์ได้ เริ่มมีกระแสการปลดล็อกกัญชา จนในที่สุดสามารถออกมาเป็นกฎหมายได้เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ทั้งหมดนี้มาจากการขับเคลื่อนและแสดงพลังของผู้บริโภคแต่เห็นว่ากฎหมายที่ออกมายังมีความไม่ชัดเจน เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องยังไม่มีความเข้าใจเรื่องกฎหมายใหม่อย่างถูกต้องทำให้ยังมีประชาชนถูกจับกุมจากการปลูกต้นกัญชา

 

ทั้งนี้ การปลดล็อกกัญชาเป็นตัวอย่างที่ดีที่ชี้ให้เห็นว่า การเอาของที่เราเห็นอยู่ว่ามันมีอยู่จริง มันเคยผิดกฎหมาย เคยอยู่ใต้ดิน เอาขึ้นมาบนดิน เอามาจัดการให้ดี มันทำให้เกิดประโยชน์ พอมีการปลดล็อกออกจากบัญชียาเสพติดแล้ว ก็ทำให้ประชาชนเริ่มมีความรู้และเริ่มเข้าใจว่ากัญชามีประโยชน์มากกว่าโทษ ซึ่งจะช่วยให้การควบคุมของภาครัฐง่ายขึ้นด้วย เพราะสามารถให้ข้อมูลให้ความรู้กับประชาชนได้ ดีกว่าปล่อยให้แอบใช้กันแบบเมื่ออดีต

แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ เราผลักดันกันเยอะมาก เราต้องการให้เปิดกว้างมากกว่านี้ มากกว่าที่กฎหมายปัจจุบันอนุญาต เราอยากเห็นการเปลี่ยนสถานะให้ "พืชกัญชา" เป็นเหมือนพืชทั่วไป ปลูกได้ไม่ถูกจับ แต่ก็ต้องมีการควบคุมอย่างเหมาะสม เช่น จำกัดสถานที่ขาย จำกัดสถานที่ซื้อ จำกัดอายุ จำนวนพกพา สถานที่ เดินสูบบนถนนไม่ได้ให้ใช้แค่พื้นที่ส่วนบุคคลเท่านั้น เป็นต้น แต่ก่อนจะไปถึงตรงนั้นได้ สังคมต้องมีความรู้และเข้าใจจริง ๆ ว่า ไม่ใช่สิ่งอันตราย ไม่ใช่สิ่งน่ากลัว แล้วเป็นสิ่งที่สามารถทำให้ชีวิตดีขึ้นได้จริง ๆทั้งบุหรี่ไฟฟ้า คราฟเบียร์หรือกัญชา ก็ควรถูกกฎหมายทั้งนั้นเพื่อให้ควบคุมดูแลได้ นายรัฐพล กล่าว

 

ด้านนายศุภพงษ์  พรึงลำภู ตัวแทนกลุ่มประชาชนเบียร์ กล่าวว่า มีกติกาให้เกิดโรงเบียร์ได้อยู่ แต่กว่า 20 ปีที่ผ่านมา มีโรงเบียร์ที่ทำได้ตามกฎหมายได้เพียง 7 บริษัท 11 โรงงานเท่านั้น ส่วนเรื่องการบริโภค ยังมีกฎหมายควบคุมแอลกอฮอล์ที่ประชาชนหรือร้านอาหารยังถูกจับ เสียค่าปรับอัตราที่สูง เพียงเพราะโพสต์ภาพเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลงโซเชียลมีเดีย ผมเชื่อว่า ไม่มีใครอยากทำอะไรที่ผิดกฎหมาย  เรื่องนี้สมาพันธ์ผู้ประกอบการและประชาชนกำลังรวบรวมรายชื่อเพื่อยื่นร่างพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เพื่อขอให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

 

นอกจากเรื่องร่าง พ.ร.บ. ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตอนนี้ กลุ่มฯ ก็กำลังพยายามผลักดันให้แก้ไขกฎหมาย เกี่ยวกับการผลิต หรือร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า ที่กำลังรอทางสภาผู้แทนฯ พิจารณาวันที่ 8 มิถุนายนนี้ และก็มีกระบวนการเพื่อเตรียมการแก้ไขกฎกระทรวงเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการ อยากให้ทางภาครัฐช่วยมองเห็นปัญหาและทางแก้ไขให้แก่ประชาชนโดยเร็ว เพราะมีผู้เดือดร้อนเป็นจำนวนมาก ผู้ออกกฎหมายไม่ควรเอาเยาวชนมาเป็นข้ออ้างเป็นตัวประกันเพราะเมื่อถูกกฎหมายแล้วจะมีวิธีควบคุมมากมายที่ดีกว่าในปัจจุบัน นายศุภพงษ์ กล่าว

 

ทนายรณณรงค์ กล่าวสรุปปิดท้ายงานเสวนาว่า ผมเชื่อว่าประชาชนต้องการความชัดเจนด้านกฎหมายจากภาครัฐ เช่นเรื่องบุหรี่ไฟฟ้า การโยนปัญหามาให้ประชาชนทั่วไปนั้นไม่ถูกต้อง อะไรผิดชัดก็ต้องจับ อะไรไม่ผิดก็ไม่ต้องจับ ขอวิงวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันแก้ปัญหา ให้เกิดความชัดเจน อย่างที่เราเห็นว่าอัยการบางคนมีคำสั่งไม่ฟ้อง แสดงว่ามีมุมมองว่าไม่ผิดอยู่ ทำไมกรณีอย่างนี้ถึงไม่ประกาศให้ทุนคนรู้ รัฐต้องทำให้เกิดความชัดเจน
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ