คิดนอกกรอบ "แบล็กเบอร์รี" สวนหลังบ้าน ของหนุ่มชาวจังหวัดชัยภูมิ

วันที่ 31 พ.ค.65 เป็นเรื่องราวของ หนุ่มจังหวัดชัยภูมิ ทิ้งเมืองกรุงกลับบ้าน ตั้งแต่ช่วงสถานการณ์โควิด -19  โดยสนใจปลูกพืชเมืองหนาว แม้จะว่าความคิดเห็นในขณะนั้นจะเป็นไปได้ยาก แต่หนุ่มเจ้าของสวนคนนี้ มุ่งมั่น ฝึกทำสวน ไร่นาสวนผสม ปลูกแบล็กเบอร์รีสวนหลังบ้าน กว่า 2,000 ต้น พิสูจน์ให้เห็นว่า สามารถทำได้ ผลิตผลไม่พอขาย 

 

 

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับ นายวิทยา ฦาชา หรือ แจ็ค ที่บ้านเลขที่ 28 หมู่ 6 บ้านหนองแต้ ต.บ้านยาง อ.เกษตรสมบูรณ์ จ.ชัยภูมิ  และบอกว่า ก่อนหน้านี้ตนเองมีความคิดอยากจะมีสวนแบล็กเบอร์รี แต่หลายคนมองว่า เป็นไปไม่ได้ เพราะประเทศไทย อากาศร้อนจัด และคิดว่า พืชตระกูลเบอร์รีทั้งหลาย เช่น สตรอเบอรี มัลเบอรี บลูเบอรี ราสเบอร์รี รวมทั้งแบล็กเบอร์รี น่าจะเป็นผลไม้เมืองหนาว หรือในพื้นที่มีอากาศเย็นจัด  

 

กระทั่งวันหนึ่ง ขณะนั้นทำงานอยู่ในกรุงเทพฯ ได้ มีโอกาสได้ไปเที่ยวประเทศเกาหลีในฤดูหนาว อากาศหนาวเย็นจนหิมะตกขาวโพลนไปหมด และได้ไปชมสวน ผลไม้ที่ปลูกอยู่โรงเรือน เป็นสวนสตรอเบอรี และแบล็กเบอร์รี  ยิ่งดูยิ่งแปลกใจ ที่ในโรงเรือนปรับอุณหภูมิ 35 องศา ซึ่งเท่ากับอากาศปกติของเมืองไทยบ้านเรา ดังนั้นบ้านเราก็น่าจะปลูกได้ ตนเองจึงมีความมุ่งมั่นในการจะนำแบล็กเบอร์รีมาปลูกที่บ้านให้ได้  

 

ประกอบกับช่วงนั้น เริ่มเข้าช่วงโควิด-19 ระบาดรุนแรง และตนเองเบื่อการทำงานในเมืองกรุง ซึ่งอยู่มานาน ถึง 10 ปี จึงหันหลังกลับ มาเริ่มต้นทำงานตามทำความฝันของตนเองที่บ้าน โดยเริ่มศึกษา ค้นคว้า และลงมือทำสวนหลังบ้านตนเอง ซึ่งมีพื้นที่ว่างที่ดินของแม่ ประมาณ 1 ไร่เศษ เริ่มปลูกสตรอเบอรี และแบล็กเบอร์รี ปลูกโดยการยกร่อง ลองผิดลองถูกด้วยตนเอง 

 

 

 

 

 

ตลอดจนการไปเรียนรู้ ศึกษาถึงการคัดเลือกพันธุ์จากศูนย์วิจัย และแลปต่างๆหลายที่ เป็นระยะเวลานานพอสมควร จึงได้สร้างห้องแลปเพาะเนื้อเยื่อเองที่บ้าน เป็นห้องปลอดเชื้อ ทั้งคัดเลือกพันธุ์และขยายพันธุ์เอง เนื่องจากแบล็กเบอร์รีขยายพันธุ์ด้วยวิธีการอื่น เช่น ตอน หรือชำ จะได้ผลน้อย และกลายพันธุ์  การเพาะเนื้อเยื่อจะได้ไม้ที่เหมือนต้นพันธุ์เดิม ไม่กลายพันธุ์ มีรสชาติคงที่ โตเร็ว  

 

ปัจจุบันเจ้าของสวนใช้พันธุ์แบล็กเบอร์รีของตนเอง ที่ผสมจาก 3 สายพันธุ์ ได้พันธุ์ที่มีคุณภาพโดดเด่น คือ ไร้หนาม มีความแข็งแรง ทนโรค ผลดก รสดีหวานอมเปรี้ยว และออกผลตลอดปี ชื่อเป็นทางการยังไม่ได้ตั้ง แต่เรียกว่า "ใบหนา ไร้หนาม ลูกดก" 

 

แบล็กเบอร์รีเป็นไม้ที่มีลำต้นติดพื้นดิน มีกิ่งงอกยาว และออกดอกผลตามยอดของกิ่งที่ออกใหม่เสมอ การปลูกก็ไม่ยาก แบล็กเบอร์รีชอบดินร่วนปนทราย ไม่ต้องยกแปลง ขุดหลุมระยะห่างประมาณ 2 คูณ 2 เมตร เพียงจอบเดียว ใช้แกลบผสมขุยมะพร้าว

 

แบล็กเบอร์รี เป็นไม้รากตื้น จึงไม่ถอนหญ้า แต่ตัดหญ้าเหมือนสนาม กิ่งจะทอดยาวไปกับพื้นและกอหญ้า เพื่อให้กอหญ้าป้องกันแมลงไปตามธรรมชาติ เนื่องจากจะไม่ใช้สารเคมีป้องกันแมลง

 

ส่วนปุ๋ยก็ผสมเอง เป็นปุ๋ยหมักจากฟางข้าว เศษใบไม้ และลูกแบล็กเบอร์รีที่เน่าเสีย ปุ๋ยคอก ใช้ พด.ของจากแม่โจ้ช่วย ระยะหลังใช้น้ำหมักจากผลแบล็กเบอร์รีที่เน่าเสีย ช่วยอีกแรงหนึ่ง

 

 

 

 

 

ดังนั้นแบล็กเบอร์รีจากสวนนี้ จึงเป็นแบล็กเบอร์รีปลอดสารร้อยเปอร์เซ็นต์ หลังจากกิ่งเริ่มมีดอกจึงทำค้างให้กิ่งได้เกาะโดยใช้เชือกผูกไว้ และผลจะเก็บได้ใน 3-4 สัปดาห์ (เมื่อออกดอกได้1 สัปดาห์จะมีลูกสีเขียวๆ อีก1สัปดาห์ ตรงกลางแดง ต้องรออีก 2 สัปดาห์ ให้ลูกเป็นสีดำหมดจึงจะเก็บได้ รสจะหวานอมเปรี้ยวนิดๆถ้าลูกมีสีแดงอยู่จะเปรี้ยวมาก) ราคาขายอยู่ที่ กิโลกรัมละ 1,000 บาท หรือ แบ่งใส่กล่องเล็กๆ 9-10 ช่อ (10 กรัม) ราคากล่องละ 100 บาท 
      

นายวิทยา เจ้าของสวน บอกด้วยว่า ปัจจุบันสวนหลังบ้านที่ตนเองอาศัยอยู่นี้ มีต้นแบล็กเบอร์รี และให้ผลอยู่ประมาณ 150  ต้น แต่สวนที่ขยายไปใหม่ 20 ไร่ นั้น ได้ลงแบล็กเบอร์รี่ไว้ 2,000 ต้น  นอกจากนี้ยังได้เพาะขยายพันธุ์พืชอื่นด้วย เช่น สตรอเบอร์รี มัลเบอร์รี องุ่น ไม้เมืองหนาว และ พันธุ์ไม้นิยมต่างๆ เช่นกล้วยด่าง เป็นต้น  

 

ส่วนแบล็กเบอร์รีพันธุ์  "ใบหนา ไร้หนาม ลูกดก" ที่ตนเองผสมเอง ปลูกเอง ยังไม่ขาย ขอพิจารณาก่อน อยากให้เป็นพันธุ์ที่ผลิตและขายให้คนไทยเท่านั้น ช่วงนี้มีการขยายลูกสวน อยู่ประมาณ 5 ราย แต่ก็ต้องเคร่งครัดและเน้นคุณภาพอย่างมาก อนาคตการพัฒนาผลิตผลและผลิตภัณฑ์ของแบล็กเบอร์รี ตั้งใจจะพัฒนาเป็นน้ำแบล็กเบอร์รี เป็นไวน์ หรือผลิตภัณฑ์อื่นที่น่าสนใจ

 

ส่วนการทำแยมต้องใช้ผลแบล็กเบอร์รีมาก จึงน่าจะเป็นประเด็นสุดท้าย (เพราะขายสดก็ไม่พออยู่แล้ว) ขอฝากให้กำลังใจสำหรับทุกคนที่สนใจทำสวน ขอให้มีความตั้งใจ มุ่งมั่น มองอะไร ทำอะไร คิดอะไร ให้นอกกรอบบ้าง ไม่มุ่งตามอย่างเดียว ก็สำเร็จแน่ เมืองไทยเราใหญ่อุดม มีดินดี น้ำดี ทรัพยากรดีกว่าที่อื่นมาก ลงมือทำตั้งแต่วันนี้ แล้วจะประสบผลสำเร็จ

 

วิรัตน์ ดวงแก้ว ผู้สื่อขาวภูมิภาค จ.ชัยภูมิ