รวบตัว เดนคุกจับสาวโรงพยาบาล ปิดตามัดมือ ชิง "รถเก๋ง"

    พ.ต.อ.สุกฤต มังคละสวัสดิ์ ผกก.สน.ราษฎร์บูรณะ นำกำลังฝ่ายสืบสวนจับกุมตัว นายธีระพันธ์ ปิยะนิรามัย หรือ ต้อม อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาคดี "ชิงทรัพย์" ในเวลากลางคืน โดยใช้อาวุธมีด  พร้อมของกลางรถเก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นแจ๊ส สีดำ ทะเบียน 6 กผ 693 กรุงเทพมหานคร  โดยจับกุมตัวได้ที่ ห้องพักไม่มีชื่อ ในพื้นที่ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเวลาประมาณ 21:00 น ของวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา น.ส.หนิง (นามสมมุติ) อายุ 25 ปี อาชีพพนักงานธุรการโรงพยาบาลแห่งหนึ่งย่านพระประแดง ได้ขับรถเก๋งคันดังกล่าวไปจอดซื้อกับข้าวบริเวณตลาดบางปะกอก ถนนสุขสวัสดิ์ แขวงและเขตราษฎร์บูรณะ กทม. 

   ขณะถือถุงกับข้าวกลับมาเก็บบริเวณท้ายรถ และกำลังจะขึ้นรถขับกลับบ้านพัก ได้ถูกนายธีระพันธ์ คนร้าย ดันเข้าไปภายในรถ ใช้สายไฟมัดมือ และ เทปผ้า ผูกที่ตา บังคับเอาเงินสด 1,000 บาท และ โทรศัพท์ไอโฟน 11 จำนวน 11 เครื่อง  โดยจังหวะที่คนร้ายกำลังจะขับรถหลบหนี โชคดีที่ผู้เสียหาย ดิ้นหลุดหนีลงจากรถมาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านได้ ในคืนนั้นจึงเข้าพบพนักงานสอบสวน และฝ่ายสืบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ เพื่อแจ้งความ ให้ตำรวจเร่งดำเนินการจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว

  ต่อมา ชุดจับกุมจึงลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่าคนร้าย คือ นายธีระพันธ์ อดีตผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด ซึ่งเคยถูกตำรวจ สน.ราษฎร์บูรณะ จับกุมก่อนหน้านี้ เพิ่งพ้นโทษออกมาเมื่อ พ.ศ 2564 หลังก่อเหตุขับรถของกลางไปจอดที่ซอยประชาอุทิศ 37 จึงติดตามไปยึดรถกลับคืนมาให้ผู้เสียหาย และ ขยายผลจนทราบว่าเจ้าตัว ไปเช่าห้องพักอยู่ในพื้นที่ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ จึงเดินทางไปจับกุมไว้ได้ในที่สุด จากการสอบสวน นายธีระพันธ์ อ้างว่า ลงมือก่อเหตุเพราะเป็นการเข้าใจผิด คิดว่า ผู้เสียหายเป็นภรรยาเพื่อนซึ่งติดเงินตนเองอยู่จำนวน 50,000 บาท จึงต้องการจะลักพาตัว เพื่อทวงหนี้กลับคืนมา ด้าน น.ส.หนิง กล่าวว่า ตนยืนยันไม่รู้จักกับคนร้ายแต่อย่างใด ยังตกใจไม่หายกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งหลังจากนี้คงต้องระมัดระวังตัวเวลาเดินทางไปไหนมาไหนคนเดียวให้มากเป็นพิเศษ หลังเกิดเหตุได้รับบาดเจ็บบริเวณท้องแขนด้านซ้ายมีรอยฟกช้ำ เงินสดและมือถือไม่ได้คืน แต่โชคดีที่ยังได้รถยนต์กลับมา โดยคนร้ายได้ถอดกล้องหน้ารถตนนำไปทิ้งด้วย เบื้องต้น นายธีระพันธ์ จึงถูกคุมตัวส่ง พนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.