"รมว.ยธ." สั่งเยียวยา"พลเมืองดี" เกาะรถแท็กซี่ ตกแม่น้ำเจ้าพระยาเสียชีวิต

เมื่อวันที่ 20 พ.ค. 65 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมสั่งให้กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เยียวยาครอบครัวนายนพดล  พิมพ์ดี หรือ วิว พลเมืองดีที่เสียชีวิต โดยนายเรืองศักดิ์ สุวารี อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ มอบหมายให้ นายธีรยุทธ แก้วสิงห์ ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านพิทักษ์สิทธิและเสรีภาพ ในฐานะโฆษกกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ติดตามความคืบหน้าคดีและติดต่อประสานครอบครัวผู้เสียชีวิต เพื่อแจ้งสิทธิค่าตอบแทนผู้เสียหายในคดีอาญา ตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 (และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ 2559) รวมถึงให้คำแนะนำการเข้าถึงกระบวนการ การเรียกค่าสินไหมทดแทนในคดีอาญาพร้อมกับหลักเกณฑ์การฟ้องคดีแพ่งฐานละเมิด การขอรับความช่วยเหลือจากกองทุนยุติธรรม รวมถึงสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่ควรจะได้รับ 

นายธีรยุทธ กล่าวว่า วันนี้ทางกรมคุ้มครองสิทธิฯดำเนินการติดต่อนายณัฐภาส พิมดี พ่อของผู้เสียชีวิต เรียบร้อยแล้ว  จากการวิเคราะห์เบื้องต้นนายนพดลเป็นผู้เสียหายในคดีอาญา ตามมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติค่าตอบแทนฯ และอาจได้รับการเยียวยาในฐานะเป็นพลเมืองดี เป็นเงิน 160,000 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของคณะอนุกรรมการฯ ในการพิจารณาอีกครั้ง โดยพ่อของผู้เสียชีวิตแจ้งว่าหากจัดการงานศพลูกชายแล้ว ตนเองจะเดินทางมาติดต่อกระทรวงยุติธรรมโดยเร็ว ซึ่งคณะอนุกรรมการฯจะได้ดำเนินการช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

โฆษกกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ  กล่าวอีกว่า กระทรวงยุติธรรม โดยกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ พร้อมให้ความช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อหรือผู้เสียหายในคดีอาญา เพื่ออำนวยความยุติธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นกับสังคมไทย ตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ซึ่งหากท่านตกเป็นเหยื่ออาชญากรรม ถูกทำร้ายถึงแก่ชีวิต ร่างกาย โดยการกระทำผิดอาญาของผู้อื่น โดยตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง มีสิทธิได้รับการเยียวยา โดยสามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือได้ที่ ส่วนกลาง (กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ) และ ส่วนภูมิภาค (สำนักงานยุติธรรมจังหวัดทุกแห่งทั่วประเทศ) หรือติดต่อที่ สายด่วนยุติธรรม โทร. 1111 กด 77 ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง

โดยวันนี้พ่อผู้เสียชีวิต เดินทางรับศพลูกชายที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลศิริราช เปิดเผยว่า นิสัยส่วนตัวลูกชายเป็นคนเรียบร้อย  ชอบช่วยเหลือคนอื่นอยู่เป็นประจำ ซึ่งคนในหมู่บ้านที่ต่างจังหวัดต่างรู้ดี  อยากบอกลูกชายว่าให้ไปอยู่ในภพภูมิที่ดี  อีกไม่นานพ่อคงได้ไปอยู่ด้วยกัน โดยวันนี้หลังจากที่รับศพลูกชายก็จะมอบร่างให้กับเพื่อนๆและจ้าของร้านที่ทำงาน นำประกอบพิธีกรรมทางศาสนา ส่วนตนในฐานะพ่อขอขอบคุณทุกคนที่ช่วยดูแลมาโดยตลอด