"หมอปลา" อ่วม เจออีก 3 ข้อหา สำนักปฏิบัติธรรมฯ หอบหลักฐานแจ้งความเอาผิด

(20 พ.ค.65) นายธรรมราช สาระปัญญา ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย กองบุญทนายความเพื่อปกป้องและสืบทอดพระพุทธศาสนา พร้อมด้วยพระครูปลัดธีรธนัชณทธา สำนักปฏิบัติธรรมพุทธชยันตรีสวนธรรมแสงเทียน ต.ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม และคณะลูกศิษย์ เดินทางมายื่นหลักฐานต่อพนักงานสอบสวน สภ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม เพื่อให้สอบสวนดำเนินคดีกับ นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา และคณะ 

พระครูปลัดธีรธนัชณทธา กล่าวว่า ที่มายื่นหลักฐานให้พนักงานสอบสวนในวันนี้ มาในช่วงเวลาที่ทนายเดชาท้าให้มา เพื่อทำความจริงให้ปรากฏ เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ว่าการกระทำของหมอปลานั้น ถูกต้องตามขั้นตอนหรือไม่ หลังจากคณะของหมอปลา ได้ส่งทีมงานแอบบันทึกภาพ ขณะเดินบิณฑบาต และกล่าวหาว่า ขับรถยนต์นำอาหารไปให้โยม หรือเข้าไปบ้านสีกา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2565 โดยทีมงานมาแอบบันทึกภาพขณะบิณฑบาต ก่อนจะเข้ามารื้อค้นรถ และนำอาตมาไปแจ้งความที่ สภ.พุทธมณฑล ก่อนนำไปออกรายการ

พระครูปลัดธีรธนัชณทธา กล่าวต่อว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ได้เข้ามาตรวจสอบและตักเตือนอาตมาไปแล้ว ส่วนการนำอาหารไปให้โยม ก็เป็นการแบ่งปันตามหลักพุทธศาสนา ส่วนการไปบ้านสีกา เป็นการไปเยี่ยมโยมอุปฐากเนื่องจากป่วย อีกทั้งอายุกว่า 70 ปี พระสงฆ์จะไปเยี่ยมก็ไม่น่าผิดอะไร แต่การกระทำของหมอปลาและคณะ ไม่ถูกต้อง ไม่ใช่เจ้าพนักงาน ที่มีอำนาจมาตรวจค้นรถคนอื่น การเข้ามาตรวจค้น ยังบันทึกภาพและก็นำไปออกรายการทางโทรศัพท์ ส่วนหนึ่งก็เป็นการสร้างกระแส เรียกเรตติ้งให้กับตัวเอง เพื่อประโยชน์ทางธุรกิจ

ด้านที่ปรึกษาด้านกฎหมายของสำนักปฏิบัติธรรมพุทธชยันตรีสวนธรรมแสงเทียน กล่าวว่า วันนี้ ได้นำหลักฐานทั้งหมดมามอบให้กับพนักงานสอบสวน สอบสวนดำเนินคดีกับหมอปลา และคณะ ใน 3 ข้อกล่าวหา คือ ใส่ความพระสงฆ์ตาม พ.ร.บ.สงฆ์ มาตรา 44 ตรี ,หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และกักขังหน่วงเหนี่ยว ซึ่งปรากฏข้อเท็จจริงตามภาพ 

พร้อมกันนี้ จะขอให้พนักงานสอบสวน ตรวจสอบเรื่องที่หมอปลากล่าวอ้าง มีการแจ้งเรื่องดังกล่าวกับผู้อำนวยการสำนักงานพุทธศาสนาแล้ว แจ้งอย่างไร เป็นความจริงหรือไม่ หากเป็นเรื่องไม่จริง ก็ขอให้ดำเนินคดีด้วย ในข้อหาแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน