ข่าว

“เทือก”รับฝ่ายค้านดิสเครดิตรัฐผ่านอภิปราย“ประดิษฐ์”

“เทือก”รับฝ่ายค้านดิสเครดิตรัฐผ่านอภิปราย“ประดิษฐ์”

13 มี.ค. 2552

“เทพเทือก” รับฝ่ายค้านต้องการดิสเครดิตรัฐบาลผ่านการอภิปราย “ประดิษฐ์” เผย พร้อมชี้แจงหากพาดพิง ปชป.-คนนอก จี้ ประธานสภาฯคุมเกมอภิปรายให้อยู่ในกรอบ

        (13มี.ค.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ฝ่ายค้านยื่นถอดถอนและอภิปรายไม่ไว้วางใจนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และรัฐมนตรีอีก 5 คน ว่า ตนมั่นใจว่านายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่อยู่ในบัญชีที่ฝ่ายค้านยื่นอภิปรายครั้งนี้จะชี้แจงประเด็นต่างๆได้ชัดเจน ตนยังคิดว่าน่าจะเป็นโอกาสดีของรัฐบาลที่จะได้ใช้โอกาสที่ประชาชนสนใจฟังการถ่ายทอดสดการอภิปรายไม่ไว้วางใจ อธิบายประเด็นต่างๆที่เคยถูกฝ่ายค้านกล่าวหาในโอกาสต่างๆมาแล้ว ก็จะทำให้ประชาชนเข้าใจชัดขึ้น ตนไม่คิดว่าจะเป็นปัญหาอะไรสำหรับรัฐมนตรีที่ถูกอภิปราย เพราะตนได้ติดตามดูการทำงานของรัฐมนตรีอย่างใกล้ชิด ก็เห็นว่าแต่ละคนตั้งใจทำงาน ไม่มีประเด็นอะไรที่ทำแล้วเกิดปัญหาเสียหายกับประเทศชาติและประชาชน ดังนั้นตนจึงเชื่อว่าจะชี้แจงได้
        เมื่อถามถึงกรณีของนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง ที่ฝ่ายค้านพยายามจะโยงไปถึงพรรคประชาธิปัตย์ในอดีตเกี่ยวกับเงิน 250 ล้านบาท เกรงหรือไม่ว่าฝ่ายค้านจะใช้นายประดิษฐ์เป็นตัวล่อเพื่อโจมตีนายกรัฐมนตรีและพรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนก็เข้าใจอย่างนั้น ต้องขออภัยด้วยถ้าความเข้าใจของตนผิด แต่ว่าตนสังเกตว่าฝ่ายค้านพยายามยกเรื่องเงิน 250 ล้านบาท และงบประมาณจาก กกต. จำนวน 23 ล้านบาท มาเป็นประเด็นที่เล่นงานพรรคประชาธิปัตย์ ที่เดิมจะอภิปรายนายกรัฐมนตรีในประเด็นนี้ แต่เมื่อเห็นว่าถ้าอภิปรายนายกรัฐมนตรีในประเด็นนี้คงจะไม่เข้าข่าย เพราะไม่ใช่เรื่องที่นายกรัฐมนตรีจะต้องรับผิดชอบ ก็เลยไปอภิปรายนายประดิษฐ์ เพราะว่าเคยเป็นเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ในยุคนั้น และตนคิดว่าเป้าหมายก็คงจะอภิปรายนายประดิษฐ์ เพื่อทำลายความน่าเชื่อถือและดิสเครดิตพรรคประชาธิปัตย์มากกว่า
        ผู้สื่อข่าวถามว่าถ้าฝ่ายค้านอภิปรายนายประดิษฐ์ โดยพาดพิงพรรคประชาธิปัตย์จะช่วยชี้แจงหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เชื่อว่านายประดิษฐ์สามารถชี้แจงได้ เพราะนายประดิษฐ์รู้และเข้าใจที่มาที่ไปของเรื่องต่างๆดี แค่ถ้าฝ่ายค้านอภิปรายออกนอกกรอบสมัยที่นายประดิษฐ์เป็นเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ พวกตนก็จะช่วยชี้แจง ถ้าการพาดพิงจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด ซึ่งตนไม่รู้สึกหนักใจ เพราะกรณีของนายประดิษฐ์ไม่ใช่การปฏิบัติหน้าที่ในฐานะที่เป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้ และกระทำความเสียหาย แต่ถ้าเป็นเรื่องที่นายประดิษฐ์บริหารราชการจนเกิดความเสียหายถึงจะน่าหนักใจ และที่สำคัญเรื่องนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาหลายปีแล้ว ตั้งแต่สมัยที่พรรคประชาธิปัตย์ยังเป็นฝ่ายค้าน
        เมื่อถามว่าขณะนี้ดูเหมือนว่าพรรคประชาธิปัตย์จะมีปัญหากับกลุ่มพันธมิตรฯ และฝ่ายค้านยื่นอภิปรายนายกษิต ภิรมย์ รมว.การต่างประเทศ ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มพันธมิตรฯ จะมีปัญหาหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ต้องชี้แจงว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้มีปัญหากับกลุ่มพันธมิตรฯ และตนก็ไม่ได้มีปัญหากับกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ผ่านมาได้ชี้แจงไปหลายครั้งแล้วว่า เคารพความคิดเห็นทางการเมืองของกลุ่มพันธมิตรฯ คนที่มาเป็นพันธมิตรฯที่มาชุมนุมบางคนไม่ได้ประโยชน์อะไร และเมื่อจบการชุมนุมก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ไม่ได้มายุ่งเกี่ยวกับการเมือง จึงขอย้ำว่าพวกตนไม่เคยมีปัญหากับกลุ่มพันธมิตรฯ ส่วนที่พรรคเพื่อไทยยกประเด็นเรื่องนี้มาอภิปรายนายกษิต เพื่อจะโยงไปตำหนิกลุ่มพันธมิตรฯตนคิดว่าประธานสภาผู้แทนราษฎรต้องควบคุมการอภิปรายให้อยู่ในกรอบ ในกติกา ให้อภิปรายเฉพาะนายกษิต ไม่ควรพาดพิงบุคคลภายนอก
        ผู้สื่อข่าวถามว่าได้วิเคราะห์หรือไม่ว่าเหตุใดแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯจึงออกมาโจมตีรัฐบาล นายสุเทพ กล่าวว่า ต้องไปถามคนที่โจมตี คนที่ถูกโจมตีอธิบายไม่ได้ว่าโดนโจมตีเพราะสาเหตุใด เมื่อถามว่ากลุ่มพันธมิตรฯได้หยิบยกเรื่องการโยกย้ายตำรวจและกรณีที่รัฐบาลไม่พิจารณาเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวนคดีที่เกี่ยวกับกลุ่มพันธมิตรฯตามที่มีการร้องขอ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ไม่เคยมีการต่อสายเพื่อพูดคุยกัน เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่หากปล่อยให้เหตุการณ์เป็นเช่นนี้ต่อไป กลุ่มพันธมิตรฯก็อาจเคลือนไหวเพื่อขับไล่รัฐบาล นายสุเทพ กล่าวว่า คิดว่าวันนี้ประชาชนติดตามข่าวสารบ้านเมืองในทุกแง่มุม จึงคิดว่าประชาชนสามารถใช้วิจารณญาณแยกแยะข้อเท็จจริงได้ ตนเลยไม่รู้สึกกังวลอะไร ตลอดเวลาที่เป็นนักการเมืองมา 30 ปี ในระบอบประชาธิปไตยได้ถูกสอนให้เคารพในวิจารณญาณของประชาชน ดังนั้นอย่าไปตั้งข้อสงสัยอะไรให้มากมาย
        เมื่อถามว่ารัฐบาลได้ติดตามการเคลื่อนไหวของกลุมพันธมิตรฯบ้างหรือไม่ เพราะล่าสุดแกนนำจะเดินทางไปปราศรัยที่ลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ในวันที่ 14-18 มี.ค.นี้ นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่ทราบ และไม่มีอะไรที่ต้องติดตาม เพราะคิดว่าสิ่งใดที่ประชาชนฟังและยังไม่เข้าใจ สื่อมวลชนคงนำมาเสนอให้ประชาชนได้รับทราบข้อเท็จจริง