ทัพไทยครองเจ้ากีฬาสากล นักกรีฑาไทย กวาด 12 เหรียญทอง กีฬา "ซีเกมส์" ครั้งที่ 31 ที่เวียดนาม เป็นอันดับ 1 ของสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทยที่ทำได้ในกีฬาสากล และกลับมาทวงตำแหน่งเจ้าลมกรดอาเซียนได้สำเร็จ
สมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทยที่กวาดเหรียญทองได้มากที่สุดในการแข่งขันกีฬา "ซีเกมส์" ครั้งที่ 31 ที่ประเทศเวียดนาม โดยทำได้ 12 เหรียญทอง, 10 เหรียญเงิน, 8 เหรียญทองแดง ประกอบไปด้วย ได้จากรายการ วิ่ง 100 เมตรชาย , 200 เมตรชาย , 400 เมตรชาย , 800 เมตรชาย , 4x100 เมตรชาย , 4x400 เมตรชาย , 4x400 ผสม , กระโดดสูงชาย , ทศกรีฑา , เขย่งก้าวกระโดดหญิง , ขว้างจักรหญิง และ 4x100 เมตรหญิง เป็นหนึ่งในเป้าหมายของคณะนักกีฬาทีมชาติไทย ที่กำหนดไว้ว่า ไทยจะต้องครองตำแหน่งเจ้าเหรียญทองในชนิดกีฬาสากล และเป็นไปตามเป้าหมายของสมาคมฯที่ตั้งไว้
โดย "แฝดเล็ก" พล.ต.ต.ศุภวณัฏฐ์ อาริยะมงคล หัวหน้าผู้ฝึกสอนกรีฑาทีมชาติไทย กล่าวว่า การเตรียมนักกีฬากรีฑาไทยเพื่อการแข่งขัน "ซีเกมส์" ครั้งที่ 31 ต้องยอมรับว่ามีปัญหาเรื่องของโควิด 19 พอสมควร แต่นักกีฬาก็ได้ซ้อมอย่างเต็มที่ซึ่งผลงานในครั้งนี้เป็นที่น่าพอใจโดยเฉพาะการกวาดเหรียญทองจากการวิ่งระยะสั้นโดยเฉพาะ วิ่ง 100 เมตร, วิ่ง 200 เมตร และวิ่งผลัด 4x100 เมตร ทำให้ไทยกลับมาครองเจ้าลมกรดอาเซียนอีกครั้ง หลังจากที่ซีเกมส์ในระยะหลังไทยได้เหรียญทองจากประเภทลานเป็นส่วนมาก
สำหรับผลงานของ "บิว" ภูริพล บุญสอน ลมกรดดาวรุ่งวัยเพียงแค่ 16 ปี ที่คว้า 3 เหรียญทองในซีเกมส์ ครั้งที่ 31 นี้ หัวหน้าผู้ฝึกสอนกรีฑาทีมชาติไทย กล่าวว่า เป็นนักกีฬาที่มีความพิเศษอย่างมาก ลงแข่งขันด้วยหัวใจ และยังมีอนาคตอีกยาวไกล โดยสมาคมฯ ต้องดูแลให้ดี อย่าให้เกิดปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนเด็ดขาด โดยในปีนี้การแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่หางโจว ประเทศจีน ในเดือนกันยายน ต้องเลื่อนออกไป ทำให้ บิว ภูริพล บุญสอน จะได้ไปพิสูจน์ผลงานอีกครั้งในการแข่งขันกรีฑาชิงแชมป์โลกรุ่นอายุไม่เกิน 20 ปี ที่เมืองคาลี ประเทศโคลอมเบีย วันที่ 1-7 สิงหาคม 2565
ข่าวที่เกี่ยวข้อง