"ชายคลุ้มคลั่ง" ขโมยรถแท็กซี่ อาการทรุดหนัก ไม่สามารถพูดจาสื่อสารได้

      พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น.  เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเหตุดังกล่าวพบข้อมูลผู้ก่อเหตุ เข้าไปทำร้ายพนักงานร้านอาหาร เพราะไม่พอใจที่พนักงานไม่ให้เข้าไปดื่มสุราด้านในร้าน จากนั้นจึงทะเลาะวิวาทและหลบหนีไปชิงรถแท็กซี่ ที่จอดติดเครื่องอยู่บริเวณใกล้เคียง แล้วขับหลบหนีไปบนสะพานพระราม 3 ก่อนกระโดดลงในแม่น้ำเจ้าพระยา

    ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลตำรวจ แล้วโดยขณะนี้ผู้ก่อเหตุยังไม่สามารถให้ปากคำใดใดได้เนื่องจากยังอยู่ในอาการมึนเมา จากการตรวจร่างกายพบมีสารเสพติด  ส่วนแอลกอฮอล์อยู่ระหว่างการรอผลตรวจ ส่วนพนักงานร้านอาหารที่พยายามเข้าระงับเหตุโดยการกระโดดเกาะแท็กซี่ก่อนจะพลัดตกลงแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณเชิงสะพานพระราม 3 จากพฤติการณ์เบื้องต้นผู้ก่อเหตุเข้าข่ายความผิด 2 ข้อหา คือ ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน และทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ซึ่งหากพบการกระทำความผิดเพิ่มเติมก็จะแจ้งข้อหาต่อไป

    มีรายงานว่า ภายหลังจากที่แพทย์แผนกฉุกเฉิน รพ.ตำรวจ รับตัว นายปาน กรวิรัตน์ อายุ 39 ปี เข้าทำการรักษานั้น แรกรับในเบื้องต้นเจ้าตัวยังมีสติสื่อสารได้ แต่พูดจาไม่รู้เรื่อง สภาพตามร่างกายภายนอกไม่พบบาดแผลใดๆ กระทั่งตกดึก เจ้าตัวเริ่มมีไข้ขึ้นสูงถึง 39 องศา ผลตรวจเม็ดเลือดแดงแตกตัวอย่างมากและค่าไตต่ำผิดปกติ ประกอบกับพบกล้ามเนื้อภายในได้รับการกระทบกระเทือนมาก คาดว่าอาจเกิดจากการกระโดดจากสะพานพระราม 3 และตกกระแทกพื้นน้ำด้วยความสูงไม่ต่ำกว่า 20 เมตร ทำให้ นายปาน หมดสติ จนต้องส่งต่อเข้าไปรักษาในห้อง "ICU" ขณะนี้ อาการทรุดหนัก ไม่สามารถสื่อสารหรือให้การใดๆ ได้ แพทย์คาดว่า อาจต้องใช้เวลารักษา ในห้อง "ICU" ถึง 2-3 วัน หากไม่ทรุดหนักจนถึงแก่ชีวิตไปเสียก่อน