ผบช.ภ.1 พร้อมแจง"คดีแตงโม" ย้อนกลับ หากไม่ผิด ผู้ร้องจะตอบสังคมอย่างไร

เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 65 พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค1 เปิดเผยถึงกรณีพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) มีคำสั่งแต่งตั้งให้ พล.ต.อ.มนตรี ยิ้มแย้ม เป็นประธานกรรมการสอบข้อเท็จจริง หลังนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลืออาชญากรรม ร้องเรียนให้ตรวจสอบตำรวจภูธรภาค1 จำนวน 4 นาย คดีการเสียชีวิตของ "แตงโม นิดา" เนื่องจากเห็นว่าไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนที่ถูกต้อง เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ไม่กระทำการรวบรวมพยานและหลักฐานทุกชนิด เท่าที่สามารถที่จะกระทำได้ตลอดจนนำข้อมูลเท็จหรือพยานหลักฐานอันเป็นเท็จเข้าสู่สำนวนการสอบสวน และไม่ทำคดีชันสูตรการตาย ไม่ตรวจสารเสพติด นายวิศาพัช มโนมัยรัตน์ หรือ "แซน" และไม่อายัดเรือของกลางตั้งแต่แรก เมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา 

พล.ต.ท.จิรพัฒน์ กล่าวว่า มั่นใจสามารถชี้แจงได้ ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงจะเชิญตนเองหรือจะให้ถ้อยคำเป็นเอกสาร พร้อมดำเนินการทั้งหมด ซึ่งที่ผ่านมาตลอดระยะเวลาที่รับราชการไม่เคยมีเรื่องด่างพร้อย ทุจริต คอรัปชั่น ทำงานมาด้วยความซื่อสัตย์สุจริต การสืบสวนสอบทุกคดี ทำไปตามพยานหลักฐาน พยานบุคคล พยานแวดล้อม และวัตถุพยาน ทำด้วยความรอบคอบ จะทำตามความรู้สึกความคิดไม่ได้ โดยเฉพาะในคดีนี้ต้องฟังความเห็นของแพทย์ผู้ตรวจพิสูจน์เป็นหลัก มองว่า การตรวจสอบเป็นเรื่องดี เพราะจะทำให้สังคมคลายข้อสงสัยได้ ตำรวจเป็นองค์กรหนึ่งของกระบวนการยุติธรรมที่สามารถตรวจสอบได้ เพื่อให้เกิดความมั่นใจและให้เกิดความเชื่อมั่นในวิชาชีพมากยิ่งขึ้น เมื่อมีผู้ร้องเรียนไปที่ ผบ.ตร. ก็เป็นกระบวนการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อมีขั้นตอน มีการรับเรื่องแล้วก็ต้องส่งให้ผู้มีอำนาจในการตรวจสอบข้อเท็จจริง

พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ยืนยันด้วยว่า ไม่กังวล และไม่เสียกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ เพราะทำงานด้วยความมั่นใจดำเนินคดีตามกรอบของกฎหมายและระเบียบที่กำหนด  การรวบรวมพยานหลักฐานเป็นหน้าที่ของตำรวจ เพื่อรวบรวมสั่งฟ้องไปยังอัยการ ส่วนประเด็นที่ถูกร้องเรียนมาใน4-5ประเด็นนั้น ก็สามารถชี้แจงได้หมด เพราะทุกอย่างอยู่ในสำนวน ซึ่งกระบวนการของอัยการจะมีการทำความเห็นไป 

ส่วนจะมีการดำเนินการฟ้องกลับหรือไม่นั้น พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ยังไม่ขอพูดถึงในตอนนี้ หากผลการตรวจสอบของคณะกรรมการออกมาถูกต้องแล้วคณะทำงานไม่มีความผิด ก็ฝากไปถามด้วยว่า ผู้ร้องเขาจะพูดอย่างไรกับสังคม