ความหวัง"คนจน"หลังกมธ.วิสามัญร่าง พ.ร.บ.กยศ.เห็นชอบ"ยกเลิกเบี้ยปรับ"

ความฝันของคนเป็นพ่อเป็นแม่ อยากเห็นลูกได้รับการศึกษาดีมีอนาคตแต่ คนจน จะไปถึงเป้าหมายได้ต้องมีตัวช่วยอย่างกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ “กยศ.” แต่ที่ผ่านมาลูกหนี้กยศ.และผู้ค้ำประกันย่ำแย่ไปตามๆ กัน ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวในการแก้ไขร่าง พ.ร.บ.กยศ.

วันที่18 พ.ค.2565 นายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา คนที่ 1 พร้อมด้วยคณะฯ แถลงผลการประชุมคณะกรรมาธิการฯ ว่า วันนี้ที่ประชุมได้มีการลงมติ 12 ต่อ 11 ในมาตรา 44 เกี่ยวกับประเด็นเบี้ยปรับ ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกที่กรรมาธิการฝ่ายค้านชนะฝ่ายรัฐบาล โดยประเด็นนี้เป็นสิ่งที่นักศึกษา ผู้ปกครอง และผู้คำประกันได้รับประโยชน์ เพราะจะทำนักศึกษาที่กู้ยืมเงินจากกองทุนจะไม่ต้องจ่ายเบี้ยปรับ 

ส่วนกรณีประเด็นของดอกเบี้ยที่กรรมาธิการฝ่ายค้านแพ้ให้ฝ่ายรัฐบาลในการพิจารณาครั้งก่อนนั้น ทางกรรมาธิการฝ่ายค้านได้มีการสวงนคำแปรญัติเอาไว้ และเมื่อใกล้สิ้นสุดการพิจารรารายมาตราจะขอเสนอให้มีการทบทวนในประเด็นนี้อีกครั้ง แต่หากไม่สามารถทบทวนได้ก็จะนำไปอภิปรายสู้ในการพิจารณาในวาระที่ 2 อีกครั้ง

ด้าน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ ในฐานะกรรมาธิการ กล่าวว่า ทางคณะกรรมาธิการ ได้การพิจารณาตามข้อมูลอย่างรอบคอบ ซึ่งพบว่าในรอบ 8 ปีที่ผ่านมากองทุนมีรายได้จากดอกเบี้ยและเบี้ยปรับถึง 20% และเงินจำนวนนี้ที่นำไปใช้ก็เป็นเงินของเด็กๆที่มีฐานะยากจน หรือ คนจน โดยการนำไปใช้ส่วนใหญ่ใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการติดตามหนี้ ค่าทนาย

“เรื่องของการศึกษารัฐธรรมนูญฉบับนี้กำหนดให้รัฐบาลต้องให้เป็นทุนการศึกษา แต่กองทุนกู้ยืมถือว่าเป็นยังเรื่องสำคัญ แต่ใครเป็นหนี้ก็ควรใช้หนี้ตามเงินต้นเท่านั้น ไม่ควรมีดอกเบี้ยและเบี้ยปรับ ซึ่งแค่คนที่เรียนจบการศึกษา ก็ถือว่าประเทศมีกำไรแล้ว เพราะหน้าที่เรื่องการศึกษาเป็นหน้าที่ของรัฐที่จะให้การสนับสนุน” พ.ต.อ.ทวี กล่าว

ขณะที่ นายวิรัช พันธุมะผล ส.ส.บัญชีรายชื่อ ตัวแทนพรรคภูมิใจไทย ยืนยันว่า การกู้ยืมเงินต้องไม่มีดอกเบี้ย ไม่มีเบี้ยปรับ และไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่พรรคภูมิใจไทยยืนยันในหลักการ และย้ำว่าพรรคภูมิใจไทยพูดแล้วทำ