ข่าว

หลานทรพี "คลั่งยา"  จับหัวย่าโขกพื้นก่อนกระทืบซ้ำดับคาที่

หลานทรพี "คลั่งยา" จับหัวย่าโขกพื้นก่อนกระทืบซ้ำดับคาที่

18 พ.ค. 2565

หลานทรพี ทาสยานรก "คลั่งยา" จิกหัวย่า วัย 80 โขกกับพื้นถนน ก่อนกระทืบซ้ำ จนเสียชีวิต ขณะญาติ และเพื่อนบ้านต่างรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต้องการให้ลงโทษหนักถึงขั้นประหารชีวิต

18 พ.ค.2565  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 16.30 น. วานนี้ (17พ.ค. 65)   เกิดเหตุสลด เมื่อ ร.ต.อ. ทองสุข โปร่งทะเล รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.หนองกี่ อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งมีคนทำร้ายกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดที่ หมู่ 4 ต.ดอนอะราง อ.หนองกี่ จึงเดินทางไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุ หน่วยกู้ชีพดอนอะราง กำลังให้การปั๊มหัวใจ นางคำตั๋น  (สงวนนามสกุล)   อายุ 80 ปี นอนหายใจรวยริน อยู่ภายในชายคาบ้าน ในสภาพบริเวณศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ เลือดไหลท่วมใบหน้า ก่อนจะรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลหนองกี่ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

 

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าควบคุมตัวนายปิยะณัฐ หรือพัตเตอร์ (สงวนนามสกุล)   อายุ 22 ปี  ผู้ก่อเหตุ  ในสภาพใส่กางเกงขานั้นตัวเดียว พูดจาวกวนไปมา จึง นำตัวไปสอบสวน ที่ สภ.หนองกี่

 

 

 

 

 

หลานทรพี \"คลั่งยา\"  จับหัวย่าโขกพื้นก่อนกระทืบซ้ำดับคาที่

 

 

นางกนกวรรณ  (สงวนนามสกุล)   อายุ 55 ปี   ลูกสาวผู้เสียชีวิต และเป็นป้า ของนายปิยะณัฐ ผู้ก่อเหตุ   เปิดเผยว่า  ที่ผ่านมาหลานเคยก่อเหตุมานับครั้งไม่ถ้วน เคยถูกจับติดคุกมาแล้ว 4 ครั้ง จากการเสพยาเสพติด และ ก่อนหน้านี้เคยก่อเหตุ จี้เอาเงินในปั๊มน้ำมันของตัวเองแต่โชคดีมีลูกค้ามาช่วย  และในช่วงกว่า 8 ปีที่ผ่านมา นายปิยะณัฐ มีอาการคลั่งเป็นระยะ ญาติ ๆ ซึ่งอยู่บริเวณเดียวกันคอยระวังตัว และยังเคยคุยกันว่า "ถ้ามันไม่ตายอาจจะมีคนครอบครัวนายสักคน "  และเหตุการณ์เศร้า ก็เกิดขึ้นโดยไม่คิดว่าจะเป็นแม่ของตัวเองที่เคราะห์ร้าย

 

 

หลานทรพี \"คลั่งยา\"  จับหัวย่าโขกพื้นก่อนกระทืบซ้ำดับคาที่

 

 

นายสุนทร   อายุ 62 ปี เพื่อนบ้านและเป็นคนที่ช่วยสามีผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่าขณะเกิดเหตุ นายปิยะณัฐ มีอาการคลั่ง ตาขวาง เห็นแล้วน่ากลัว เพราะกระทำกับย่าของตัวเองอย่างโหดเหี้ยม ที่ผ่านมาชาวบ้านอยู่กันอย่างหวาดผวา  เมื่อเห็นนายปิยะณัฐ มองตาจะต้องหลบสายตาทุกครั้ง เพราะเกรงจะถูกทำร้าย นอกจากนี้ ยังเกรงว่า ครั้งนี้หากนายปิยะณัฐ ติดคุกไม่นาน และพ้นโทษ ออกมาอาจจะมาก่อเหตุอีกก็เป็นได้ ส่วนตัวอยากให้ประหารชีวิต เพราะดูแล้วไม่น่าจะกลับมาเป็นคนดีได้อีก

 

 

 

หลานทรพี \"คลั่งยา\"  จับหัวย่าโขกพื้นก่อนกระทืบซ้ำดับคาที่

 

 


ขณะที่ ญาตินางคำตั๋น ผู้เสียชีวิต  ญาติได้นำศพ มาตั้งบำเพ็ญกุศลไว้ที่บ้าน ท่ามกลางกระแสชาวบ้านที่ต่างออกมาวิพากษ์วิจารณ์กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะ นายจันทร์  อายุ  79 ปี สามีนางคำตั๋น และเป็นปู่ของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยถึงเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุตนกับผู้เสียชีวิตกำลังนั่งกินข้าวเย็นกัน 2 คน เห็นนายปิยะณัฐ หลานชายเดินมาแบบไม่สวมเสื้อผ้า นางคำตั๋น  ผู้เสียชีวิต จึงบอกไปให้ไปใส่กางเกงเพราะอายเขา

 

จากนั้นนายปิยะณัฐ ผู้ก่อเหตุ ได้จับกางเกงขึ้นมา แต่ไม่ใส่ กลับสะบัดทิ้ง ทำให้ภรรยาตนต่อว่าหลานอีก จากนั้นตนได้ออกไปนั่งใกล้กันเพราะกินข้าวอิ่มแล้ว ส่วนนางคำตั๋น ยังนั่งกินข้าวต่อ ทันใดนั้นหลาน ได้ปรี่เข้ามาในลักษณะเปลือยกาย จิกหัวนางคำตั๋น ลากออกไป ตนเห็นท่าไม่ดี จึงได้แค่ตะโกนว่า "อย่าทำอะไร มันบาปกรรรม" แต่หลานไม่ได้สนใจ จับหัวย่าของตน โขกกับถนนคอนกรีตหลายครั้ง ทำให้นางคำตั๋น นอนแน่นิ่ง จึงวิ่งเข้าไปห้ามแต่ถูกสะบัดออก แล้วพยายามจะหันมาทำร้ายตน จึงวิ่งหนีเข้าไปในบ้านของเพื่อนบ้าน 

 

 

นายจันทร์ ยังเล่าอีกว่า ภาพที่ตนเห็นกับตาและรับไม่ได้คือนายปิยะณัฐ  หลานตัวเอง ย้อนกลับไปหาร่างของย่าตัวเอง แล้วจิกหัวลากเข้าไปในบ้าน ก่อนจะลงมือกระทืบซ้ำแบบไม่ยั้ง แต่ตนไม่สามารถออกมาจากบ้านได้เกรงจะได้รับอันตราย จากนั้นได้มีนายสมพร ทองเหลืองพล อายุ 54 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน  ได้วิ่งเข้ามาช่วย แต่สู้แรงไม่ไหว จึงวิ่งหนีออกไปเอาหัวชนกับเสาบ้านทำให้คิ้วแตก

 

 

หลานทรพี \"คลั่งยา\"  จับหัวย่าโขกพื้นก่อนกระทืบซ้ำดับคาที่

 

 

นายจันทร์ บอกด้วยว่า ถึงเวลานี้ยังรับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ เพราะรุนแรงเกินไป อยากให้ตำรวจดำเนินคดีถึงที่สุด โดยจะไม่ไปประกันตัว หรือให้ความช่วยเหลือใดๆกับหลานคนนี้อีก สาเหตุเป็นเพราะหลานติดยาบ้าจนงอมแงม จนคลั่งและเข้าทำการรักษาที่โรงพยาบาลหนองกี่ เป็นประจำ

 

ด้านนายสมพร ทองเหลืองพล ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เล่าว่า ตอนนั้นถือว่าเป็นเหตุซึ่งหน้า จึงเข้าไปดึงแขนนายปิยะณัฐ ให้ออกมาระหว่างที่กำลังบีบคอย่าตัวเอง แต่นายปิยะณัฐ ซึ่งตอนนั้นเปลือยกายล่อนจ้อน พยายามจะหันเป้าหมายมาหาตน จึงวิ่งหนีกระทั่งหัวไปชนใส่เสาบ้านจนคิ้วแตก ก่อนตำรวจจะมาถึง ส่วนพบนายปิยะณัฐ หลังก่อเหตุ ได้กลับเข้าบ้านไปใส่กางเกงขาสั้นออกมา จึงเข้าควบคุมตัว

 

 


วันชัย ผิวอร่าม  ผู้สื่อข่าว จ.บุรีรัมย์